คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญายอมความเป็นสัญญาซื้อขายบริบูรณ์ กรรมสิทธิผ่าน

ย่อยาว

โจทก์จำเลยพิภาษกันเรื่องเลิกหุ้นส่วนโรงสีซึ่งโจทก์จำเลยออกันคนละ ๖๐๐๐ บาท แล้วได้ตกลงทำสัญญายอมความกันดังนี้ “โจทก์จำเลยตกลงยอมความกัน คือจำเลยยอมซื้อโรงสี โดยจำเลยออกเงินใช้โจทก์ผู้เป็นหุ้นส่วน ๖๐๐๐ บาท แล้วโจทก์จะไม่เกี่ยวข้องแก่โรงสีต่อไป โดยหมดสิทธิมอบให้ฝ่ายจำเลยเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว จำเลยขอผัดใช้เงินให้เสร็จภายใน ๘ เดือน ถ้าไม่ใช้ยอมให้ปรับและนำยึดทรัพย์” ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยคิดยักย้ายทรัพย์ ขอให้ศาลยึดทรัพย์ไว้จนกว่าจำเลยจะใช้เงินตามยอม ศาลออกหมายยึดโรงสี ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้าน
ปัญหามีว่า สัญญายอมนี้เป็นสัญญาซื้อขายสำเร็จบริบูรณ์แต่วันทำสัญญายอมหรือจะสำเร็จบริบูรณ์เมื่อจำเลยใช้เงินเสร็จ
ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์เห็นว่าการซื้อขายยังไม่สำเร็จบริบูรณ์ เพราะมีเงื่อนไขว่าเมื่อจำเลยออกเงิน ๖๐๐๐ บาทให้โจทก์แล้ว โจทก์จะไม่เกี่ยวข้องในโรงสีต่อไป โจทก์จึงยังมีสิทธิที่จะยึดโรงสีได้ และผู้ร้องซึ่งซื้อจากจำเลยจึงยังไม่ได้กรรมสิทธิบริบูรณ์
ศาลฎีกาเห็นว่า การซื้อขายสำเร็จบริบูรณ์ตั้งแต่วันทำสัญญายอมเป็นต้นไป ทรัพย์สมบัติของหุ้นส่วนตกเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว โจทก์เป็นเพี่ยงเจ้าหนี้เท่านั้น ให้ถอนการยึดโรงสีเสีย

Share