คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกต้องฟ้องภายใน 1 ปี. จำเลยประกาศรับมรดกและได้รับใบแทนโฉนดแล้ว ครอบครองที่รายพิพาทนั้นต่อมา โจทก์มิได้คัดค้านจนพ้นอายุความมรดก แม้โจทก์จะเป็นผู้ยึดถือโฉนดเดิมไว้ก็ตาม ก็หมดสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องได้

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมของนางสาวปริกเจ้ามรดกผู้วายชนม์ ที่นารายพิพาทโจทย์ฟ้องขอแบ่งนี้ จำเลยได้ครอบครองมาฝ่ายเดียวกับแต่นางสาวปริกวายชนม์และต่อมา ๒ เดือน จำลยประกาศรับมรดกโอนมาเป็นของจำเลยโดยจำเลยแจ้งว่าโฉนดเดิมหาย เจ้าพนักงานจึงออกใบแทนให้โจทก์ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง โจทก์เคยฟ้องเรียกมรดกนางสาวปริกจากนางเอี่ยมพี่สาวโจทก์ครั้งหนึ่งรวมทั้งที่นารายพิพาทนี้ด้วย จำเลยยื่นคำร้องขอรับส่วนแบ่งมรดกด้วย นายเอี่ยมแถลงต่อศาลในคดีนั้นว่า สำหรับที่นารายนี้นางจับได้ส่วนแบ่งไปเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์มิได้โต้แย้งอย่างไร นางจับจำเลยจึงขอถอนคำร้องไม่ขอรับส่วนแบ่งอีก
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า หากจะฟังว่าโฉนดเดิมอยู่ที่โจทก์ โฉนดนั้นก็ใช้ไม่ได้ตามกฎหมาย เพราะเจ้าพนักงานได้ออกใบแทนโฉนดสำหรับที่รายนี้แล้ว จะฟังว่าโจทก์ได้ครอบครองที่รายนี้หาได้ไม่ คดีของโจทก์จึงขาดอายุความมรดก พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์เป็นผู้ยึดถือโฉนดต้องถือว่าโจทก์ได้ครอบครองที่รายนี้ตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๕๗๗/๒๔๕๕ ศาลฎีกาเห็นว่าข้อที่โจทก์ถือโฉนดเดิมไว้นั้น เพราะจำเลยได้ประกาศขอรับมรดกและออกใบแทนโฉนดแล้ว โจทก์มิได้คัดค้าน ทั้งจำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าไปเกี่ยวข้องในที่รายนี้คำพิพากษาฎีกาที่โจทก์อ้างไม่ตรงกับคดีนี้ พิพากษายืน

Share