คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า หลังจากที่จำเลยได้รับรถไปตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว จำเลยชำระค่าเช่าซื้อเพียง 12 งวดและผิดนัดไม่ชำระตั้งแต่งวดที่ 13 เป็นต้นมาจนถึงวันฟ้องโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว การผิดนัดของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และโจทก์บรรยายฟ้องต่อไปถึงเรื่องรายละเอียดของค่าเสียหาย ส่วนคำขอท้ายฟ้องเป็นการขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถยนต์คืนหรือชดใช้ราคาทรัพย์ ลักษณะคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องเช่นนี้ เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายโดยอ้างเหตุว่าจำเลยทั้งสองผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อทั่วไปเท่านั้น คดีจึงไม่มีกรณีที่จำเลยต้องชำระค่าเสียหายแม้จะเกิดจากเหตุสุดวิสัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ราคา 257,952 บาท ตกลงชำระ 48 งวด งวดละ 5,374 บาทกับภาษีมูลค่าเพิ่มอีกงวดละ 376.18 บาท รวมเป็นเงินงวดละ 5,750.18 บาท มีจำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อถึงงวดที่ 12 แล้วผิดนัดตั้งแต่งวดที่ 13 โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วจำเลยที่ 1 ไม่ส่งมอบรถยนต์คืน โจทก์เสียหายขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์เดือนละ 5,000 บาท คิดถึงวันฟ้องเป็นเวลา 16 เดือน เป็นเงิน 80,000 บาท โจทก์ออกเงินทดรองชำระภาษีมูลค่าเพิ่มไปรวม 5 งวด เป็นเงิน 1,880.90 บาทเสียค่าใช้จ่ายในการติดตามทรัพย์สินเป็นเงิน 2,000 บาทขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาเป็นเงิน 200,000 บาท ให้ร่วมกันชำระค่าขาดประโยชน์และค่าภาษีมูลค่าเพิ่มรวมเป็นเงิน81,880.90 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จและร่วมกันชำระค่าขาดประโยชน์อีกเดือนละ 5,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จกับให้ร่วมกันชำระค่าติดตามทรัพย์สินเป็นเงิน 2,000 บาทแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นตามฎีกาโจทก์ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายมีว่า คำฟ้องโจทก์หรือคำขอท้ายฟ้องได้บรรยายโดยชัดแจ้งที่ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถคืนหรือชดใช้ราคาแทน ไม่ว่าจะเกิดจากเพราะเหตุสุดวิสัยหรือไม่ก็ตามเช่นนี้หรือไม่ว่า โจทก์บรรยายในคำฟ้องข้อ 3ว่าหลังจากที่จำเลยที่ 1 ได้รับรถไปตามสัญญาเช่าซื้อแล้วจำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อเพียง 12 งวด และผิดนัดไม่ชำระตั้งแต่งวดที่ 13 เป็นต้นมาจนถึงวันฟ้อง โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว การผิดนัดของจำเลยที่ 1 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อไปบรรยายถึงเรื่องรายละเอียดของค่าเสียหาย ส่วนคำขอท้ายฟ้องเป็นการขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถยนต์คืนหรือชดใช้ราคาทรัพย์ ลักษณะคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องเป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายโดยอ้างเหตุว่าจำเลยทั้งสองผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อทั่วไปไม่มีข้อความใดขอให้จำเลยทั้งสองต้องชำระค่าเสียหายแม้จะเกิดจากเหตุสุดวิสัยแต่อย่างใด
พิพากษายืน

Share