แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องและบรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทการลักทรัพย์แลให้ลงโทษฐานลักทรัพย์แม้โจทก์จะมีคำขอให้ลงโทษฐานรับของโจรด้วยก็ไม่ทำ++กลายเป็นฟ้องเคลือบคลุมเมื่อกรณีเข้าอยู่ในลักษณตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 163 – 164 ศาลก็มีอำนาจสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องได้+++ไม่ต้องระบุสถานที่ที่ตน+++ผู้ร้าย ฎีกาอุทธรณ์ ฎีกาข้อกฎหมาย ++เคลือบคลุมหรือไม่เป็น ฎีกาข้อกฎหมาย ++มีอำนาจให้ฌจทก์แก้ฟ้อง+หรือไม่เป็นปัญหากฎหมาย
ย่อยาว
คดีนี้เดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกลักกระบือของ ป. ไป ๑ ตัว เจ้าทรัพย์ตามไปได้กระบือคืนมาจากจำเลยที่ตำบลหนองกลด อำเภอนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี โดยจำเลยกับพวกสมคบกันลักลักหรือรับกระบือนี้ไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย ขอให้ลงโทษตาม ม๐ ๒๙๓ – ๒๙๔ – ๓๒๑ ต่อมาโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นตำบลหนองกลด อำเภอโพธิทอง จังหวัดอ่างทอง
ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลย ๆ คัดค้านแต่เห็นว่าไม่เป็นเหตุให้จำเลยเสียเปรียบจึงอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ แล้วฟังว่าจำเลยลักกระบือรายนี้จริง พิพากษาให้ลงโทษตาม ม.๒๙๔ ตอน ๒
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตาม
จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์ว่าลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้นเป็นฟ้องเถลือบคลุม แล ศาลควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้หรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องเรื่องจำเลยลักกระบือ แต่โจทก์มีคำขอฐานรับของโจรเพิ่มเข้ามาด้วยเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะมิได้ฝ่าฝืนต่อประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. ๑๕๘ และเห็นว่าเหตุที่โจทก์ขอแก้นี้อยู่ในลักษณตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. ๑๖๓ – ๑๖๔ ศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง