แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลเมื่อชั้นต้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวน ศาลก็ย่อมฟังข้อเท็จจริงได้จากหลักฐานและคำพยานที่ปรากฏมีอยู่ในสำนวนประกอบการวินิจฉัยได้ทั้งหมดไม่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้อ้างหรือนำมาสืบ และผู้ถูกหาว่าละเมิดอำนาจศาลก็มีโอกาศซักค้านพยานนั้นได้ อยู่แล้ว ศาลย่อมฟังลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
โจทก์ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทำร้ายพยานโจทก์ข้างฝานอกห้องพิจารณาบนศาล ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าพยานโจทก์ทำร้ายผู้ร้องฝ่ายเดียว ต่างฝ่ายต่างขอให้ลงโทษอีกฝ่ายในฐานละเมิดอำนาจศาล จำคุก 4 เดือน เช่นนี้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาว่าพยานโจทก์ดังกล่าวมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลด้วยเพราะผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายในส่วนการละเมิดอำนาจศาลของพยานโจทก์ดังกล่าวนั้น
ย่อยาว
ในวันสืบพยานโจทก์ในคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยขอแบ่งทรัพย์ เสร็จการพิจารณาแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเตะนายไผ่พยานโจทก์ซึ่งเบิกความแล้วและถีบนายจูซ่วนซึ่งโจทก์อ้างเป็นพยานแต่ไม่ได้เบิกความ เหตุเกิดข้างฝานอกห้องพิจารณา เป็นการละเมิดอำนาจศาล
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล หากแต่นายไผ่กับพวกกลุ้มรุมทำร้ายผู้ร้องฝ่ายเดียว
ศาลแพ่งไต่สวนแล้วฟังว่า ผู้ร้องทำร้ายนายไผ่และนายจูซ่วนฝ่ายเดียวการกระทำของผู้ร้องเป็นการประพฤติไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑ (๑) ฉบับที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๒ เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามมาตรา ๓๓ ให้จำคุก ๖ เดือน แต่อาญายังไม่ถึง ๒๐ ปีลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๖ คงจำคุกผู้ร้อง ๔ เดือน นายไผ่ นายจูช่วยยังไม่มีความผิด ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ผู้ร้องทำร้ายพยานโจทก์ในบริเวณศาลจริง ส่วนที่ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายในเรื่องละเมิดอำนาจศาล ไม่ถูกโต้แย้งสิทธิ ไม่มีกรณีที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลจึงร้องต่อศาลและนำสืบพยานไม่ได้นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อศาลดำเนินกระบวนพิจารณาเรื่องนี้ได้เองแล้ว ศาลก็ย่อมรับฟังคำพยานหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงให้ศาลเห็นข้อเท็จจริงได้ แต่เมื่อศาลได้มีคำสั่งลงโทษผู้ร้องและยกคำร้องของผู้ร้องแล้ว ผู้ร้องอุทธรณ์ได้ก็เฉพาะแต่ที่ตนถูกลงโทษมาเท่านั้น ส่วนที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องที่ว่า นายไผ่กับพวกละเมิดอำนาจศาลด้วยนั้น ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายในส่วนการละเมิดอำนาจศาลของนายไผ่กับพวก ไม่มีกรณีที่จะใช้สิทธิทางศาล จึงอุทธรณ์ขึ้นมาเองในส่วนนี้ไม่ได้ พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ที่ผู้ร้องฎีกาว่า โจทก์ไม่มีสิทธิและหน้าที่ที่จะยื่นคำร้องกล่าวโทษและนำพยานมาสืบในกรณีนี้ได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลเป็นความผิดต่อศาล เมื่อศาลแพ่งได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวน ศาลก็ย่อมฟังข้อเท็จจริงได้จากหลักฐานและคำพยานที่ปรากฏมีอยู่ในสำนวนประกอบการวินิจฉัยได้ทั้งหมด ไม่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้อ้างหรือนำมาสืบ และผู้ร้องมีโอกาสซักค้านพยานนั้นได้ อยู่แล้ว ศาลย่อมฟังลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาขอให้ลงโทษนายไผ่และนายจูช่วนฐานละเมิดอำนาจศาลด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดเรื่องละเมิดอำนาจศาลซึ่งศาลล่างไม่ได้ลงโทษนายไผ่กับพวกนั้น ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายในส่วนการละเมิดอำนาจศาลของนายไผ่กับพวก ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน