แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในวันนัดชี้สองสถานและนัดพร้อมเพื่อสอบข้อเท็จจริง โจทก์มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าตามคำฟ้องและคำให้การคดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยานทั้งสองฝ่าย และพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ หากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป จำเลยต้องอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาดังกล่าว จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้เพราะมิใช่กรณีที่จำเลยไม่มาศาลในวันสืบพยาน และศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาซึ่งจำเลยจะขอพิจารณาใหม่ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 207.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คสองฉบับซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อเช็คถึงกำหนดจ่ายเงิน โจทก์ได้นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแล้ว แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างเหตุว่า”บัญชีปิดแล้ว” ขอบังคับให้จำเลยใช้เงิน 523,704 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์สมคบกับผู้มีชื่อฉ้อฉลจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดชี้สองสถานและนัดพร้อมเพื่อสอบข้อเท็จจริงทนายโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา ศาลชั้นต้นเห็นว่าตามคำฟ้องและคำให้การ คดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยานทั้งสองฝ่าย และพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 499,800 บาทพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าในวันนัดชี้สองสถานทนายจำเลยติดธุระสำคัญมาศาลไม่ได้ และไม่ทราบว่าศาลจะสอบถามข้อเท็จจริงบางอย่างจากจำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีมิใช่การขาดนัดพิจารณาและศาลมิได้สั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา จึงไม่มีเหตุจะขอพิจารณาใหม่ ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีที่จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ได้นั้นจะต้องเป็นกรณีที่จำเลยไม่มาศาล ในวันสืบพยานซึ่งถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาเสียก่อน แต่คดีนี้เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นเพียงแต่นัดชี้สองสถานและนัดพร้อมเพื่อสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ยังมิได้นัดสืบพยานของคู่ความฝ่ายใดกรณีจึงมิใช่เรื่องจำเลยขาดนัดพิจารณา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดชี้สองสถานและงดสืบพยานของคู่ความแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีหากจำเลยประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป จำเลยก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าว จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 หาได้ไม่
พิพากษายืน.