คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเพียงคนขับรถยนต์โดยสารของเจ้าของรถ จึงอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถ หาใช่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งประจำทางไม่ จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา23แต่เมื่อรถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปีจำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ จึงมีความผิดตามมาตรา 71,148

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23, 126 จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท ตามมาตรา 71,148 ปรับ 4,000 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ตามคำวินิจฉัยศาลล่างทั้งสองว่า จำเลยเป็นผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งประจำทางจากนายทะเบียน รถยนต์คันเกิดเหตุเป็นรถยนต์โดยสารประจำทางของนายประสิทธิ์ จันทวารา ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางระหว่างตัวจังหวัดอุบลราชธานีกับบ้านน้ำปลีก อำเภออำนาจเจริญ ขณะเกิดเหตุนายประสิทธิ์ จันทวารา ก็ยังมิได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบการขนส่งประจำทางจากนายทะเบียนเช่นกัน และขณะเกิดเหตุรถคันนี้ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยได้ขับรถยนต์คันนี้บรรทุกคนโดยสารในระหว่างเส้นทางดังกล่าว และถูกเจ้าพนักงานจับกุมกล่าวหาเป็นคดีนี้ขึ้น

มีปัญหาตามฎีกาโจทก์ในประเด็นข้อแรกว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบการขนส่งอันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 23 หรือไม่ เห็นว่า ตามบทมาตราดังกล่าวได้บัญญัติห้าม มิให้ผู้ใดประกอบการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่ง โดยรถขนาดเล็กหรือการขนส่งส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นเพียงแต่คนขับรถยนต์ โดยสารของนายประสิทธิ์จันทวารา คันดังกล่าว จำเลยจึงอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถตามความในมาตรา 42(1) แห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ หาใช่อยู่ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการขนส่งประจำทางตามความหมายของมาตรา 23 ไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดในฐานนี้ ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ส่วนปัญหาข้อที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำรถที่ใช้ในการขนส่งที่ไม่ได้เสียภาษีรถประจำปีไปใช้จะมีความผิดหรือไม่นั้น เห็นว่า รถที่ใช้ในการขนส่ง นอกจากรถนั้นจะต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง กับได้จดทะเบียนตามมาตรา 73 แล้ว ต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีถูกต้องตามมาตรา 85 ด้วย จึงจะนำไปใช้ได้ ดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 71 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 148 เมื่อฟังได้แล้วว่ารถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ การกระทำของจำเลยย่อมถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดในข้อหาฐานนี้ ที่ศาลอุทธรณ์ว่าไม่เป็นความผิด ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ ข้อนี้ฟังขึ้น

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71,148 ปรับ 2,000 บาท ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”

Share