คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกสมคบกันตั้งสมาคมอั้งยี่โดยปิดบังวิธีการเพื่อการทุจจริตต่าง ๆ เอาอำนาจไปเที่ยวกดขี่แก่บุคคลที่ไม่ใช่พรรคพวกสมาชิกด้วยกันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญามาตรา 177,179,180 แต่โจทก์สืบไป+ทางว่า คณะอั้งยี่นี้มีกติกา+ ถ้าพวกเดียวกันข่มเหงกันแล้วครั้งที่ 1 ให้สั่งสอนครั้งที่ 2 ให้เฆี่ยน ครั้งที่ 3 ให้ฆ่า เป็นการนำสืบ+ฟ้อง+ รับฟังลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้สมคบกันตั้งสมาคมอั้งยี่ ใช้นามว่าคณะแดงหรือคณะสามราศรี โดยปกปิดวิธีการเพื่อการทุจจริตต่าง ๆ เอาอำนาจไปเที่ยวกดขี่แก่บุคคลที่ไม่ใช่พรรคพวกสมาชิกด้วยกัน เป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๗,๑๗๙,๑๘๐
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๗๗ กฎหมายอาญา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสำนวนปรากฎว่าพวกคณะสามราศรีนี้มีวิธีการปกปิด แต่วัตถุประสงค์ของคณะจะเป็นการใช้อำนาจกดขี่ผู้ไม่ใช่สมาชิกหรือไม่นั้น โจทก์ไม่มีพะยานแน่นอนในข้อนี้ โจทก์พยายามนำสืบไปในทางว่า คณะนี้มีกติกาว่าถ้าพวกเดียวกันข่มเหงกันแล้วครั้งที่ ๑ ให้สั่งสอน ครั้งที่ ๒ ให้เฆี่ยน ครั้งที่ ๓ ให้ฆ่า แต่ทั้งนี้เป็นการนำสืบนอกฟ้อง ซึ่งตามมาตรา ๑๙๒ วิธีพิจารราความอาญาบัญญัติว่า “ห้ามมิให้พิพากษาหรือสั่งเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวไว้ในฟ้อง” พะยานโจทก์ข้อนี้ก็เบิกความแตกต่างกันและนอกเหนือฟ้อง จึงฟังมาลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง ปล่อยจำเลยไป

Share