แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยตกลงกันว่า “โจทก์จะต้องทำถนนขนาดมาตรฐาน คอนกรีตเสริมเหล็กหนา 15 เซนติเมตร ส่วนหน้ากว้าง 8 เมตร ผิวจราจร 6 เมตร ไหล่ถนนข้างละ 1 เมตร ใต้ไหล่ทางมีท่อระบายน้ำ และท่อพักเปิดปิดทำความสะอาดได้
” ตามข้อตกลงดังกล่าว หมายความว่าโจทก์ต้องทำไหล่ถนนข้างละ 1 เมตร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กด้วย เมื่อโจทก์ไม่ได้ทำไหล่ถนนข้างละ 1 เมตร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กด้วย เมื่อโจทก์ไม่ได้ทำไหล่ถนนข้างละ 1 เมตร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กเพียงแต่ทำท่อระบายน้ำมีบ่อพักและมีฝาปิดเปิดเท่านั้น ถือได้ว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในสัญญาโดยครบถ้วน
คดีนี้โจทก์มีคำขอให้เรียกร้องที่ดินมาเป็นของโจทก์ ราคาที่ดินย่อมเป็นทุนทรัพย์ จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินเพื่อทำการจัดสรร จึงได้ซื้อที่ดินบางส่วนของจำเลยเพื่อทำถนน ได้ทำสัญญากันว่าจำเลยยินยอมให้ทำถนนผ่านที่ดินโดยโจทก์ต้งอจ่ายเงินค่าทดแทนให้จำเลย ๑๕๐,๐๐๐ บาท แล้วจำเลยจะแบ่งแยกโฉนดเฉพาะส่วนที่เป็นถนนให้โจทก์ โจทก์สร้างถนนแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมยื่นคำร้องขอรังวัดแบ่งแยกโฉนดและไม่ยอมรับเงิน ๑๒๐,๐๐๐ บาทที่โจทก์ยังไม่ได้ชำระ และไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ ขอให้จำเลยรังวัดแบ่งแยกที่ดินตามสัญญาและโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ และรับเงิน ๑๒๐,๐๐๐ บาทจากโจทก์
จำเลยให้การว่า ไม่ได้ตกลงขายที่ดินตามฟ้องให้โจทก์ เพียงแต่ทำสัญญายินยอมให้โจทก์ทำถนนผ่านที่ดินบางส่วนเท่านั้น แต่โจทก์ไม่สร้างถนนให้เสร็จใน ๑๐ เดือน และสร้างถนนกว้างเพียง ๖ เมตร ไม่ถึง ๘ เมตร ไม่ยอมทำไหล่ถนน จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาแล้ว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ฟังว่าโจทก์ผิดสัญญาทำถนนไม่ถูกต้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามหนังสือสัญญาหมาย จ. ๑ โจทก์จำเลยตกลงกันในข้อ ๙ วรรคแรกว่า “ผู้รับความยินยอม (โจทก์) จะต้องทำถนนขนาดมาตรฐาน คอนกรีตเสริมเหล็กหนา ๑๕ เซนติเมตร
. ส่วนหน้ากว้าง ๘.๐๐ เมตร ผิวจราจร ๖.๐๐ เมตร ไหล่ถนนข้างละ ๑.๐๐ เมตร ใต้ไหล่ทางมีท่อระบายน้ำและบ่อพักเปิดปิดทำความสะอาดได้
” และในข้อ ๑๒ ว่า “หากผู้รับความยินยอม (โจทก์) ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในสัญญานี้โดยครบถ้วน ผู้รับความยินยอม ยินยอมให้ผู้ให้ความยินยอม (จำเลย) ยึดเงินมัดจำทั้งสิ้น
และให้ถือว่าสัญญานี้เป็นอันเลิกแล้วต่อกัน
” ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อตกลงในหนังสือสัญญาหมาย จ. ๑ ดังกล่าว โจทก์ต้องทำไหล่ถนนข้างละ ๑ เมตรเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กด้วย เมื่อโจทก์นำสืบรับว่าไม่ได้ทำไหล่ถนนข้างละ ๑ เมตรเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพียงแต่ทำท่อระบายน้ำมีบ่อพักและมีฝากปิดเปิดเท่านั้น ถือได้ว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในสัญญาโดยครบถ้วน จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ที่โจทก์นำสืบว่า ไม่มีข้อตกลงในหนังสือสัญญาหมาย จ. ๑ จึงเป็นการนำสืบขัดแย้งกับเอกสารเชื่อฟังไม่ได้ ที่โจทก์นำสืบว่าการทำถนนในที่ดินจัดสรรทั่ว ๆ ไปไม่มีการทำทางเดินบนไหล่ถนนก็จะนำมาใช้ในคดีนี้ไม่ได้ เพราะที่ดินของจำเลยไม่ใช่ที่ดินที่โจทก์จัดสรร เพียงแต่โจทก์ทำถนนผ่านที่ดินของจำเลยเข้าไปในที่ดินที่โจทก์จัดสรรเท่านั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ทำถนนไม่ถูกต้องตามข้อตกลงในหนังสือสัญญา อนึ่ง ที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์เพราะเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์มีคำขอให้เรียกร้องที่ดินมาเป็นของโจทก์ ราคาที่ดินย่อมเป็นทุนทรัพย์ จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์
พิพากษายืน