คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8579/2553

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำร้องขอของผู้ร้องที่อ้างว่ากรรมการของบริษัทละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ร้องในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้รับความเสียหาย ไม่ใช่เป็นเรื่องที่มีตำแหน่งว่างลงในจำนวนผู้แทนของนิติบุคคลและมีเหตุอันควรเชื่อว่าการปล่อยตำแหน่งว่างไว้น่าจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 73 หรือเป็นเรื่องที่นิติบุคคลไม่สามารถดำเนินการได้อันเนื่องมาจากผู้แทนบางคนไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่จึงไม่อาจนำมาตรา 73 มาบังคับใช้ในฐานะบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งตามมาตรา 4 ได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นผู้มีส่วนได้เสียในบริษัทศาลาแดง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทั้งโดยการถือหุ้นโดยตรงและโดยทางอ้อมผ่านทางบริษัท จี ดับบลิว ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัทศาลาแดง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีนายรายินเดอร์ปาล และนายนานักเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน กรรมการทั้งสองคนดังกล่าวปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ร้องในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้รับความเสียหาย และหากให้บุคคลทั้งสองทำหน้าที่เป็นกรรมการของบริษัทศาลาแดง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ต่อไป ก็รังแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้อง ขอให้มีคำสั่งตั้งนายเจมส์ ซึ่งเป็นคนกลางและเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการเป็นผู้แทนของบริษัทศาลาแดง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ชั่วคราวจนกว่าคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2910/2547 ของศาลแพ่ง ซึ่งเป็นคดีที่สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการทั้งสองในคดีนี้จะถึงที่สุด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีตามคำร้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีเดิมที่ค้างพิจารณาอยู่ที่ศาลแพ่ง ผู้ร้องชอบที่จะเสนอต่อศาลแพ่ง มิใช่ร้องเป็นคดีใหม่ต่อศาลชั้นต้น ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นอ้างว่า เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งเดิม และมีคำสั่งใหม่ว่า ตามคำร้องขอของผู้ร้องเป็นการใช้สิทธิแห่งตนโดยไม่สุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 และเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1151 ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่า กรรมการชุดเดิมไม่เคยพ้นวาระก็ดี ไม่เคยจัดให้มีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นก็ดี และไม่เคยพิจารณาการประกาศจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นก็ดี พฤติการณ์ดังกล่าวผู้ร้องสามารถดำเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะที่ 22 ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัทได้อยู่แล้ว จึงไม่ใช่กรณีไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะตามที่กล่าวอ้าง ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า ตามคำร้องขอของผู้ร้องเป็นเรื่องที่ผู้ร้องอ้างว่ากรรมการของบริษัทศาลาแดง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ร้องในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้รับความเสียหาย กรณีจึงไม่ใช่เป็นเรื่องมีตำแหน่งว่างลงในจำนวนผู้แทนของนิติบุคคลและมีเหตุอันควรเชื่อว่าการปล่อยตำแหน่งว่างไว้น่าจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 หรือเป็นเรื่องที่นิติบุคคลไม่สามารถดำเนินการได้อันเนื่องมาจากผู้แทนบางคนไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่อันจะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 มาบังคับใช้ในฐานะบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 ประกอบมาตรา 73 ตามที่ผู้ร้องอ้าง สำหรับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8938/2542 ที่ผู้ร้องอ้างนั้นข้อเท็จจริงแตกต่างกับคดีนี้ ที่ศาลล่างมีคำสั่งยกคำร้องต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share