แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาประกันภัยที่โจทก์ผู้เอาประกันภัยทำไว้กับจำเลยผู้รับประกันภัยมีข้อความว่า “ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท เว้นแต่บริษัทมิได้จัดการเรียกร้องนั้น” หมายถึงกรณีที่มีบุคคลอื่นเรียกร้องให้ผู้เอาประกันภัยชดใช้ค่าเสียหาย ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลนั้น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทจำเลยผู้รับประกันภัย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่มีความมุ่งหมายเพื่อป้องกันมิให้ผู้เอาประกันภัยก่อหนี้อันอาจส่งผลผูกพันต่อบริษัทจำเลยในการที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลอื่นโดยจำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วยเท่านั้น หาใช่เป็นข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยหรือเป็นเงื่อนไขที่มีความหมายในทางป้องกันหรือห้ามมิให้โจทก์ผู้เอาประกันภัยสละสิทธิเรียกร้องแก่บุคคลใดการที่โจทก์ได้ตกลงกับคู่กรณีโดยต่างฝ่ายต่างสละสิทธิเรียกร้องต่อกัน จึงมิใช่ยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลใดตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาประกันภัยรถยนต์ของโจทก์กับจำเลยซึ่งประกอบธุรกิจประกันภัย เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2528 ซึ่งอยู่ในระหว่างกำหนดอายุสัญญา รถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ได้ชนกับรถยนต์ของบุคคลอื่น รถยนต์โจทก์เสียหาย และเสียค่าซ่อมเป็นเงิน 100,000บาท จำเลยไม่ชำระค่าซ่อมให้ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การต่อสู้ว่า เมื่อเกิดเหตุแล้วผู้ขับขี่รถยนต์โจทก์
ได้ตกลงยินยอมกับคู่กรณีโดยไม่ได้รับความยินยอมของจำเลยเป็นการผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยหมวด 1 ข้อ 1.5 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ค่าเสียหายโจทก์ไม่เกิน 20,000 บาทขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เงิน 100,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า หลังจากเกิดเหตุแล้วผู้ขับขี่รถยนต์คันเกิดเหตุของโจทก์ และคู่กรณีอีกฝ่ายได้ตกลงยอมให้เจ้าพนักงานตำรวจเปรียบเทียบปรับทั้งสองฝ่ายและต่างไม่ติดใจที่จะเรียกร้องซึ่งกันและกันทั้งทางแพ่งและทางอาญา ส่วนรถยนต์โจทก์นั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประเมินราคาของจำเลยเป็นผู้มอบให้บริษัท วี.ซี.เซนเตอร์ จำกัดเป็นผู้ทำการซ่อม แต่เมื่อซ่อมเสร็จแล้ว บริษัทจำเลยไม่ยินยอมชำระค่าซ่อม โจทก์จึงชำระค่าซ่อมเป็นเงิน 100,000 บาท จึงรับรถยนต์คืนมาได้แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยหมวด 1 ข้อ 1.5 การจัดการเรียกร้อง 1.5.1 มีข้อความว่าผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอมเสนอ หรือให้สัญญาว่า จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท เว้นแต่บริษัทมิได้จัดการต่อการเรียกร้องนั้น เห็นว่าเงื่อนไขข้อนี้หมายถึงกรณีที่มีบุคคลอื่นเรียกร้องให้ผู้เอาประกันภัยชดใช้ค่าเสียหาย ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอมเสนอ หรือให้สัญญาว่า จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทจำเลยผู้รับประกันภัย ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่มีความมุ่งหมายเพื่อป้องกันมิให้ผู้เอาประกันภัยก่อหนี้อันอาจส่งผลผูกพันบริษัทจำเลยผู้รับประกันภัยในการที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลอื่นโดยบริษัทจำเลยไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วยเท่านั้น หาใช่เป็นข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัย หรือเป็นเงื่อนไขที่มีความหมายในการป้องกันหรือห้ามมิให้โจทก์ผู้เอาประกันภัยสละสิทธิเรียกร้องแก่บุคคลใดอันจะมีผลถึงการรับช่วงสิทธิไล่เบี้ยดังที่จำเลยอ้าง เมื่อปรากฏว่าคนขับรถยนต์โจทก์ได้ตกลงกับคู่กรณีโดยต่างฝ่ายต่างสละสิทธิเรียกร้องต่อกันมิใช่ยินยอม เสนอหรือให้สัญญาว่า จะชดใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลใดตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย โจทก์จึงไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย
พิพากษายืน.