แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จะมีข้อความปรากฏในสัญญาเช่าให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุกๆ เดือนและหากว่าผู้เช่าผิดสัญญา. ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที. โดยผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใดก็ตาม. แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่ารวมชำระค่าเช่าหลายๆ. เดือนต่อครั้ง.ดังนั้น. เมื่อผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 เดือน จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่าไม่ได้. และเมื่อผู้เช่าไม่ผิดสัญญา.ผู้ให้เช่าจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือยึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว.
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวเมื่อเดือนสิงหาคม 2504 จำเลยยินยอมให้โจทก์รับโอนสิทธิการเช่าตึกแถวนี้จากผู้เช่าเดิม โดยโจทก์ต้องเสียค่าเซ้งตึกและเสียค่าเช่าอีกเดือนละ 112.50 บาท ให้แก่จำเลย แต่โจทก์ไม่อาจเข้าอยู่ในตึกแถวที่เช่าได้ เพราะมีคนอื่นอาศัยอยู่ไม่ยอมออกโจทก์ต้องฟ้องขับไล่ และกว่าผู้อยู่อาศัยจะขนย้ายออกไปก็ประมาณปลายปี 2506 ครั้นเดือนกรกฎาคม 2507 โจทก์ให้คนไปทำความสะอาดตึกแถวดังกล่าว จำเลยขัดขวางและใส่กุญแจปิดตึกแถวนั้นเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย และให้โจทก์เข้าครอบครองอยู่อาศัยในตึกที่เช่าต่อไป จำเลยให้การว่า จำเลยยินยอมให้โจทก์รับโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทจริง แต่จำเลยไม่ได้รับค่าเซ้งตึก โจทก์คงเสียค่าเช่าและค่าภาษีโรงเรือนรวมเดือนละ 112.50 บาท ให้จำเลยเท่านั้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2507 โจทก์มาขอลดค่าเช่าให้เหลือเพียงเดือนละ 50 บาท จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงบอกเลิกการเช่าและส่งคืนตึกแถวที่เช่า จำเลยจึงเอากุญแจไปใส่ประตูห้องตึกแถว นอกจากนี้โจทก์ยังค้างชำระค่าเช่าอยู่ 2 เดือน เป็นการผิดสัญญาเช่าซึ่งตกลงกันไว้ว่า ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองในที่เช่ารายนี้ได้ทันที ผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างหนึ่งอย่างใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และโจทก์ไม่ได้เสียหายดังฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยยอมให้โจทก์เข้าครอบครองตึกพิพาทตามสัญญาเช่า ส่วนเรื่องค่าเสียหายโจทก์นำสืบไม่ได้ จำเลยไม่ต้องรับผิด จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาว่า การที่โจทก์ผิดสัญญาเช่าโดยไม่ชำระค่าเช่าให้จำเลยถึง2 เดือนเช่นนี้ จำเลยจะมีสิทธิขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันทีตามสัญญาเช่าหรือไม่ นอกจากนี้จำเลยยังฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงไม่จำเป็นอย่างอื่นอีก ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายข้างต้นว่า ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการชำระค่าเช่าฟังได้ว่า จำเลยยอมผ่อนผันให้โจทก์ชำระค่าเช่ารวมกันหลาย ๆ เดือนต่อครั้ง แม้ข้อความในสัญญาเช่าจะกำหนดกันไว้ให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าภายในวันที่ 7 ของทุก ๆ เดือนก็ตาม จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญาเช่าไม่ได้ และเมื่อโจทก์ไม่ผิดสัญญาเช่า จำเลยจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว พิพากษายืน.