คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปลัดอำเภอตรวจพบคนเล่นไพ่ผิดเงื่อนไขจึงทำการจับกุมและเรียกเงินจากผู้เล่นครั้นพวกเล่นยอมให้เงิน+และทำบันทึกว่าเล่นได้ไม่ผิดเงื่อนไข ดังนี้เป็นความผิดฐานรับสินบนตามมาตรา 138(2) ไม่ใช่มาตรา 136
ศาลเดิมลงโทษตามกฎหมาย + อาญามาตรา 136 จำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 138 จำคุก 3 ปี ถือว่าแก้มาก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์ ฉ้อโกง และกระทำให้เสื่อมเสียอิสสรภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ผิดต่อกฎหมายลักษณอาญา มาตรา ๑๓๖ ให้จำคุก ๑ ปี ส่วนจำเลยอีก ๓ คนไม่ผิด
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ เป็นปลัดอำเภอ จำเลยนอกนั้นเป็นตำรวจ พากันไปตรวจพบคนเล่นไพ่ ๗ คน ซึ่งผิดเงื่อนไขในใบอนุญาต จึงจะทำการจับกุมอ้างว่าจะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงินมากถ้าพวกผู้เล่นยอมเสียเงินให้จำนวนหนึ่งขณะนั้นแล้ว ก็จะไม่จับ ในที่สุดพวกเล่นยอมให้เงินจำเลยตามต้องการ จำเลยจึงทำบันทึกว่าเล่นกันไม่ผิดเงื่อนไขและไม่ทำการจับกุม ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการเรียกและรับสินบนแล้วละเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่จำเลยที่ ๒-๓ สมคบกันกระทำผิดด้วย จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยทั้ ๓ คนผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๓๘ (๒) จำคุกคนละ ๓ ปี จำเลยที่ ๔ ไม่ได้ความว่าทำผิด ให้ปล่อย
จำเลยผู้ต้องโทษทั้ง ๓ ฎีกา สำหรับจำเลยที่ ๑ ฎีกาว่าถ้าจะมีผิดก็ควรผิดตามมาตรา ๑๓๖ มิใช่มาตรา ๑๓๘ กฎหมายลักษณอาญา ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการเรียกและรับสินบนโดยเด่นชัด เพราะพวกผู้เล่นการพะนันได้เล่นผิดกฎหมายจริง จำเลยเรียกเงินสินบนมาได้แล้วจึงปล่อยตัวไป และทำบันทึกว่าเล่นไม่ผิดกฎหมาย ในบันทึกนั้นก็ปรากฎชื่อจำเลยทั้ง ๓ แสดงให้เห็นชัดว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิด จึงพิพากษายืน

Share