แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องหาว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสประกอบด้วยทุกข์เวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลสาหัสมากน่ากลัวอันตราย รักษาประมาณ 1 เดือนจำเลยรับสารภาพแม้ผู้เสียหายกับจำเลยแถลงต้องกันว่ารักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 14 วันก็หาย โจทก์ไม่คัดค้านแต่จะขอสืบพยานว่าเป็นบาดแผลสาหัสดังนี้ ศาลต้องให้โจทก์นำสืบ จะสั่งงดไม่สืบพยานเสียไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้มีดปลายแหลมแทงพลตำรวจถวิลบาดเจ็บสาหัสประกอบด้วยทุกข์เวทนากล้าเกิน 20 วัน ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256(8)
จำเลยให้การรับสารภาพ แต่เรื่องบาดเจ็บสาหัสนั้น ผู้ถูกกระทำร้ายแถลงต่อศาลว่า รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพียง 14 วันก็หาย และออกจากโรงพยาบาลได้ ศาลสอบจำเลย ๆ ก็ว่าผู้เสียหายรักษาตัวเพียง 14 วันก็หาย ฝ่ายโจทก์ไม่คัดค้านคำผู้เสียหาย แต่จะขอสืบว่าบาดแผลสาหัส
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ พิพากษาว่าเป็นเรื่องบาดเจ็บไม่สาหัส ลงโทษตามมาตรา 254
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จะฟังคำแถลงของจำเลยและคำพลตำรวจถวิลว่าเป็นความจริง เป็นยุติดังนั้นหาได้ไม่ แม้โจทก์จะไม่คัดค้านก็ตามเพราะเพียงคำแถลง มิใช่เป็นคำเบิกความเป็นพยาน ถึงหากจะเป็นคำพยาน เมื่อโจทก์ยังขอสืบพยานต่อไป โดยมีเหตุเช่นในคดีนี้ก็ควรสืบพยานให้ประจักษ์จริง หาควรสั่งงดไม่ คดีนี้แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลสาหัสมาก น่ากลัวอันตราย รักษาประมาณ 1 เดือนก็นับว่าเป็นเหตุอันหนึ่งที่ควรสืบปากคำแพทย์จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นฟังพยานในเรื่องบาดแผลต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ