คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่426จำเลยได้เข้ามาปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินแปลงดังกล่าวเนื้อที่107.51ตารางวาโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ดังนี้เมื่อตามภาพถ่ายแผนที่พิพาทท้ายฟ้องได้แสดงถึงที่ตั้งของที่ดินไว้แล้วส่วนจำเลยเข้ามาอยู่ในที่ดินพิพาทเมื่อใดทิศไหนกว้างยาวเท่าใดและติดกับที่ดินผู้ใดนั้นเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ฟ้องโจทก์จึงหาเคลือบคลุมไม่ จำเลยฎีกาว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินการจำหน่ายจ่ายโอนจะต้องทำตามกฎหมายจะทำโดยพลการไม่ได้นั้นเป็นคนละเรื่องกับหนังสือมอบอำนาจชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ทั้งจำเลยมิได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การเพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาและไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 426จำเลยได้เข้ามาปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินแปลงดังกล่าวเนื้อที่107.51 ตารางวา โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์แจ้งให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไปแต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับให้จำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินของโจทก์ห้ามเข้าเกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลยให้การว่า หนังสือมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมายฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะมิได้บรรยายว่า จำเลยเข้ามาอยู่ในที่ดินพิพาทตั้งแต่เมื่อใด จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทเนื้อที่กว้างยาวเท่าใด มีเขตติดต่อกับที่ดินของผู้ใดบ้าง จำเลยไม่สามารถให้การต่อสู้ได้ถูกต้อง ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนบ้านและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาทของโจทก์ ห้ามเข้าเกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องแล้วว่า จำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทโดยเข้ามาปลูกบ้านอยู่อาศัยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ เนื้อที่ 107.51 ตารางวา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 426 ตำบลตูมใต้ อำเภอกุมภวาปีจังหวัดอุดรธานี ของโจทก์ ตามภาพถ่ายแผนที่ดินพิพาทท้ายฟ้องได้แสดงถึงที่ตั้งของที่ดินพิพาทไว้ด้วย ส่วนจำเลยเข้ามาอยู่ในที่ดินพิพาทเมื่อใด ทิศไหน กว้างยาวเท่าใด และติดกับที่ดินผู้ใดนั้น เป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณาฟ้องโจทก์จึงหาเคลือบคลุมไม่
ที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การจำหน่ายจ่ายโอนจะต้องทำตามกฎหมาย จะทำโดยพลการไม่ได้นั้น เป็นคนละเรื่องกับหนังสือมอบอำนาจชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อีกทั้งจำเลยมิได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ เพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกา และไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน

Share