แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทไว้โดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 เป็นการได้เช็คพิพาทไว้โดยไม่สุจริต จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายย่อมปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 905, 916 ประกอบด้วยมาตรา 989
จำเลยที่ 1 ให้การว่าโจทก์ได้เช็คพิพาทโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการได้มาโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นโจทก์ได้เช็คพิพาทมาด้วยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ข้อต่อสู้ดังกล่าวนี้เป็นประเด็นพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 ย่อมจะนำสืบต่อสู้ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ สั่งจ่ายเช็คให้จำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ สลักหลังเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืม โจทก์ได้นำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคาร ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน โจทก์ได้ให้ทนายบอกกล่าวให้จำเลยชำระ จำเลยก็ไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระพร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่นายเหลียงอี้ ต่อมาได้รับโทรเลขจากนายเหลียงอี้ว่าเช็คพิพาทหาย จึงโทรเลขแจ้งธนาคารให้งดจ่ายเงิน และโทรเลขให้นายเหลียงอี้แจ้งความ นายเหลียงอี้ได้แจ้งความไว้ ณ สถานีตำรวจและอายัดธนาคารให้งดจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยที่ ๑ ไม่รู้จักโจทก์และจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ได้ลักเช็คพิพาทจากนายเหลียงอี้หรือเก็บเช็คพิพาทได้แล้วยักยอกไว้ เป็นการได้มาโดยทุจริต โจทก์ได้รับเช็คพิพาทโดยการคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ ๒ หรือมิฉะนั้นโจทก์ได้เช็คพิพาททั้งสองฉบับมาด้วยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ได้นำเช็คพิพาทมาแลกเปลี่ยนกับเงินสดของจำเลยที่ ๒ จำเลยได้รับเช็คไว้โดยสุจริต การที่ธนาคารไม่จ่ายเงินไม่ใช่ความผิดของจำเลยที่ ๒ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ออกเช็คให้แก่นายเหลียงอี้ นายเหลียงอี้ทำหาย ไม่ได้เอาเช็คพิพาทแลกกับเงินสดจากจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ได้เช็คพิพาทมาโดยไม่สุจริต ไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อสลักหลังโอนให้แก่โจทก์ ไม่ทำให้จำเลยที่ ๑ ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็ค แม้จะฟังว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยสุจริตก็ตาม ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๑ ให้จำเลยที่ ๒ ใช้เงินตามเช็คกับดอกเบี้ยแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ให้จำเลยที่ ๑ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๒
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ ออกเช็คให้นายเหลียงอี้จริง แต่เช็คนั้นหายไปและไปตกอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ ๒ ได้เช็คพิพาทมาโดยไม่สุจริต โจทก์ได้รับโอนเช็คพิพาทไว้โดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ ๒ เป็นการได้เช็คพิพาทไว้โดยไม่สุจริต จำเลยที่ ๑ ผู้สั่งจ่ายย่อมปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๐๕, ๙๑๖ ประกอบด้วยมาตรา ๙๘๙ ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยที่ ๑ ให้การว่าโจทก์ได้เช็คพิพาทโดยคบคิดกันฉ้อฉลกับจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นการได้มาโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นโจทก์ได้เช็คพิพาทมาด้วยการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เห็นได้ว่าคำให้การดังกล่าวเป็นการต่อสู้หลายแง่หลายอย่าง ตามกฎหมายต้องถือว่าไม่มีประเด็นจะวินิจฉัย เห็นว่า เมื่อนางเหลียงอี้ผู้ทรงเช็คพิพาททำเช็คหาย และเช็คพิพาทตกไปอยู่ในความครอบครองของโจทก์ โดยมีเหตุอันควรสงสัยว่าจำเลยที่ ๒ จะเป็นผู้ลักไปจากนายเหลียงอี้หรือเก็บเช็คพิพาทที่นายเหลียงอี้ทำตกหายแล้วยักยอกไว้ จำเลยที่ ๑ จึงยกข้อต่อสู้ดังกล่าวเพื่อให้ตนพ้นผิดได้ และข้อต่อสู้นั้นเป็นประเด็นพิพาทซึ่งจำเลยที่ ๑ ย่อมจะนำสืบต่อสู้ได้
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์ .