แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ในตำแหน่งพนักงานธุรการ แม้จะไม่จำกัดว่าเป็นการค้ำประกันเฉพาะในตำแหน่งดังกล่าวและไม่มีกำหนดเวลาก็ตาม การที่โจทก์มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งพนักงานรับจ่ายเงิน ให้รับผิดชอบในเรื่องการเงินอันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงภัยและความรับผิดให้แก่จำเลยที่ 2 มากขึ้น จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดในหน้าที่การงานตำแหน่งใหม่แม้จะได้ทราบและมิได้คัดค้านการที่โจทก์แต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งพนักงานรับ-จ่ายเงิน ก็ไม่มีผลทำให้ความรับผิดของจำเลยที่ 2 ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันเปลี่ยนแปลงไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานธุรการของโจทก์โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ยักยอกเงินโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินจำนวน246,741.11 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีของจำเลยที่ 1 อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลาง จึงไม่รับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ค้ำประกันจำเลยที่ 1ในฐานะที่โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 ในตำแหน่งพนักงานธุรการเท่านั้นต่อมาโจทก์ให้จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งพนักงานรับ-จ่ายเงินซึ่งเป็นหน้าที่ที่จะต้องรับผิดหนักขึ้น โดยโจทก์มิได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 ทราบ สัญญาค้ำประกันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2จึงเป็นอันระงับ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามหนังสือค้ำประกันมีใจความสำคัญว่าตามที่โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 ในตำแหน่งพนักงานธุรการ ตามหนังสือสัญญาจ้างลงวันที่ 1 มีนาคม 2524 นั้น ถ้าจำเลยที่ 1 กระทำการใดก่อให้เกิดความเสียหายหรือก่อหนี้สินขึ้นต่อโจทก์ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ และจำเลยที่ 1 ไม่ชดใช้ค่าเสียหายหรือหนี้สินให้แก่โจทก์ตามที่เรียกร้องไว้ด้วยเหตุใดก็ตาม จำเลยที่ 2 ยินยอมชำระค่าเสียหายหรือหนี้สินนั้นโดยสิ้นเชิงแทนจำเลยที่ 1 โดยไม่จำกัดข้อตกลงตามสัญญาดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 2 ค้ำประกันการเข้าทำงานของจำเลยที่ 1 ในตำแหน่งพนักงานธุรการ ตามหนังสือสัญญาจ้างก็ระบุไว้โดยชัดแจ้งว่า โจทก์ตกลงจ้างจำเลยที่ 1 เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ในตำแหน่งพนักงานธุรการ ต่อมาโจทก์มีคำสั่งแต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งพนักงานรับ-จ่ายเงิน มีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการรับ-จ่ายเงินค่าขายสินค้าและค่าซื้อสินค้า รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และอื่น ๆ จำเลยที่ 2ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ในตำแหน่งเดิมซึ่งเข้าทำงานคือพนักงานธุรการ แม้จะไม่จำกัดว่าเป็นการค้ำประกันเฉพาะในตำแหน่งดังกล่าวและไม่มีกำหนดเวลาก็ตาม การที่โจทก์ได้มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งพนักงานรับ-จ่ายเงินให้รับผิดชอบในเรื่องการเงิน อันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงภัยและความรับผิดให้แก่จำเลยที่ 2 มากขึ้น จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดในหน้าที่การงานตำแหน่งพนักงานรับ-จ่ายเงินของจำเลยที่ 1 แม้จะได้ความว่า จำเลยที่ 1 ได้ทราบและมิได้คัดค้านการที่โจทก์แต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งพนักงานรับ-จ่ายเงิน ก็ไม่มีผล ทำให้ความรับผิดของจำเลยที่ 2 ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันเปลี่ยนแปลงไป
พิพากษายืน