คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้อง บรรยายฟ้อง หลงข้อต่อสู้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่า ม.ตายตามมาตรา 249 แต่ได้ความว่าจำเลยตั้งใจยิงคนหนึ่งแต่พลาดไปโดน ม.อีกคนหนึ่งตายศาลมีอำนาจลงโทษตามมาตรา 249 – 44 ได้แม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายมาในฟ้องหรืออ้างมาตรา 44 แลไม่เป็นการหลงข้อต่อสู้หรือเสียเปรียบในทางคดีอย่างไร

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนยิง ม.ตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๔๙
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดดังโจทก์หาวางมาตรา ๑๔๙-๔๔ ให้จำคุก ๒๐ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกับพวกอีก ๓ คนเป็นตำรวจได้มาเที่ยวดูงาน แต่มิได้สรวมเครื่องแบบ ในงานนั้นมีขอตามประเพณีพื้นเมืองจำเลยได้บังอาจให้คนนั่งแลใช้มือตบตีคนที่อยู่ข้างหน้าให้นั่ง เมื่อจำเลยมาถึง น. ซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าผู้ตายจำเลยใช้มือเขกศีร์ษะบอกให้นั่งและตีที่กกหู น.จึงต่อยโดนจำเลยแล้วหลบมาทางหลังผู้ตาย จำเลยยกปืนจ้องไปทาง น.ปืนก็ลั่นไปทีหนึ่งโดนผู้ตายตาย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลล่างที่ลงโทษตามมาตรา ๒๔๙ แล ๔๔ โดยเชื่อว่าจำเลยตั้งใจยิง น. แต่ น. หลบทางหลังผู้ตายกะสุนปืนจึงโดนผู้ตาย แลเห็นว่าแม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายมาในฟ้องหรืออ้างมาตรา ๔๔ ศาลก็มีอำนาจวางมาตรา ๔๔ ได้ เพราะโจทก์อ้างว่าจำเลยฆ่า +.เพราะฉะนั้นจะฆ่าโดยยิงพลาดหือตั้งใจยิง +.ผลก็เหมือนกัน จำเลยไม่หลงข้อต่อสู้แลไม่มีทางเสียเปรียบในเชิงคดีอย่างไร จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share