คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8367/2550

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ยื่นคำร้องขอปล่อยทรัพย์ที่ยึดต่อศาลก่อนเอาทรัพย์ออกขายทอดตลาด เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไปก่อนแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2535 เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 18992 พร้อมสิ่งปลูกสร้างมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2546 เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้นายอินทรผู้เสนอราคาสูงสุด ในราคา 620,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2546 ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ผู้ร้องเข้าทำประโยชน์โดยปลูกบ้านพักอาศัยตั้งแต่ประมาณปี 2523 และครอบครองตลอดมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว โดยไม่มีผู้ใดมาโต้แย้ง ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไม่ใช่ของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา แต่เป็นของผู้ร้อง การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาด
ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ซื้อทรัพย์ซื้อทรัพย์มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคำร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องเพื่อประวิงคดี คำร้องของผู้ร้องไม่ปรากฏว่าโจทก์หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้สมคบกันขายทอดตลาดโดยมีเจตนาไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวยื่นเกิน 15 วัน นับแต่มีการขายทอดตลาด จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ผู้รับจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวยื่นคำคัดค้านว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีชอบด้วยกฎหมายแล้ว ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 ซึ่งโฉนดที่ดินระบุชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จึงได้รับประโยชน์ตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่า บุคคลที่มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง การครอบครองที่ดินและบ้านกว่า 20 ปี ของผู้ร้อง เป็นการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม สิทธิของผู้ร้องดังกล่าวเมื่อยังไม่ได้จดทะเบียนจึงเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ และยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้รับจำนองผู้ได้จดทะเบียนสิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตไม่ได้ และผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอก ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในคดี ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ระหว่างไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องรับว่าที่ดินโฉนดดังกล่าวมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อเท็จจริงพอวินิจฉัย จึงให้งดการไต่สวนคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ คืนค่าคำขอให้ผู้ร้องจำนวน 150 บาท
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ขายไปแล้วหรือไม่ ในปัญหาดังกล่าวเห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องมีความประสงค์ขอให้ยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีคือการขายทอดตลาดที่ได้ขายไปแล้ว โดยอ้างว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ถูกยึดโดยการครอบครองปรปักษ์ ผู้ร้องประสงค์จะให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวโดยอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ซึ่งกรณีจะเป็นเรื่องของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองนั้น ต้องเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และเกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี บุคคลดังกล่าวจึงมีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงขอให้งดการบังคับไว้ก่อนได้ แต่ตามคำร้องของผู้ร้องมิได้กล่าวอ้างเลยว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่ประการใด เพียงแต่กล่าวอ้างว่า ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ถูกยึดโดยการครอบครองปรปักษ์และธนาคารที่รับจำนองทรัพย์ดังกล่าวได้รับจำนองไว้โดยไม่สุจริตจึงไม่ได้รบการคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสองนั้น หากเป็นความจริงก็มิใช่เป็นการกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดี จึงไม่อาจยกเหตุที่ผู้ร้องอ้างมาเพิกถอนการขายทอดตลาดได้ และหากจะถือว่าคำร้องของผู้ร้องเป็นการร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 เนื่องจากผู้ร้องอ้างว่าทรัพย์ที่ถูกยึดมิใช่เป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาแต่เป็นของผู้ร้องโดยการครอบครองปรปักษ์ ผู้ร้องจึงขอคืนได้โดยอ้างว่าเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนมาด้วยนั้น เห็นว่า การที่จะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยทรัพย์ที่ยึดคืนแก่ผู้ร้องได้นั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 วรรคหนึ่ง ก็กำหนดให้ยื่นคำร้องขอต่อศาลก่อนเอาทรัพย์ออกขายทอดตลาด เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไปก่อนแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องของผู้ร้องนั้นเป็นการชอบแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share