แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า โจทก์รับประกันภัยจากผู้เอาประกันและนำไปประกันภัยต่อผ่านจำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทประกันวินาศภัยในต่างประเทศเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้นและโจทก์ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว จึงฟ้องเรียกร้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาประกันภัยต่อเช่นนี้ ความรับผิดของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องเป็นความรับผิดในฐานะผู้รับประกันวินาศภัยการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ต้องถืออายุความ 2 ปีนับแต่วันวินาศภัย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทประกันวินาศภัยในต่างประเทศ (ผู้รับประกันภัยต่อ) รวม 6 บริษัท เมื่อระหว่างปี 2524 ถึง 2526 โจทก์ได้รับประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยจำนวน 267 ราย และนำไปประกันภัยต่อผ่านจำเลย ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทประกันวินาศภัยในต่างประเทศ6 บริษัท โดยทำสัญญาประกันภัยต่อจำนวน 474,891,274 บาทปรากฎว่าได้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์ที่เอาประกันภัยจำนวน424 ครั้ง โจทก์ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยเป็นเงินทั้งสิ้น 154,368,254.05 บาท โจทก์มีหนังสือแจ้งรายละเอียดความเสียหายพร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทนส่วนที่บริษัทผู้รับประกันภัยต่อจะต้องรับผิด จำนวน 424 ครั้งคิดเป็นเงิน 23,186,026.88 บาท แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 23,186,026.88 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า จำเลยเป็นเพียงนายหน้าประกันวินาศภัย เป็นตัวกลางจัดให้มีการประกันภัยต่อเท่านั้นมิได้เป็นคู่สัญญาในการประกันภัยต่อกับโจทก์แต่อย่างใดโจทก์จะต้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันหรือบริษัทผู้รับประกันภัยต่อ มิได้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันจำนวน267 ราย รวม 424 ครั้ง และโจทก์มิได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวนตามฟ้อง โจทก์มิได้ฟ้องภายในกำหนด 2 ปี นับแต่วันวินาศภัยหรือวันที่โจทก์ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีของโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ข้อเท็จจริงฟังยุติตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองว่าโจทก์ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทรับประกันวินาศภัยต่างประเทศ เมื่อระหว่างปี 2524 ถึง 2526 โจทก์รับประกันภัยทรัพย์สินไว้แล้วนำไปเอาประกันภัยต่อกับบริษัทประกันภัยที่มีภูมิลำเนาต่างประเทศรวม 6 บริษัท โดยจำเลยเป็นตัวแทนดำเนินการรับประกันภัยต่อแทนบริษัทดังกล่าวต่อมาได้เกิดวินาศภัยต่อทรัพย์สินที่โจทก์รับประกันภัยและได้เอาประกันภัยต่อจำนวน 424 ครั้ง โจทก์ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยเป็นเงิน21,886,190.01 บาท
คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทผู้รับประกันวินาศภัยต่อในต่างประเทศแตกต่างจากกรณีที่ผู้เอาประกันภัยฟ้องให้ผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยตรง จึงไม่อยู่ในบังคับอายุความ2 ปี นับแต่วันวินาศภัย เห็นว่า โจทก์กล่าวในฟ้องว่าโจทก์รับประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยและนำไปประกันภัยต่อผ่านจำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทรับประกันวินาศภัยในต่างประเทศเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้นและโจทก์ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วจึงฟ้องเรียกร้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาประกันภัยต่อเช่นนี้ความรับผิดของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องเป็นความรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัย ซึ่งมีลักษณะเป็นการประกันภัยวินาศภัยการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ต้องถืออายุความ 2 ปีนับแต่วันวินาศภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882วรรคหนึ่ง เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยวันที่ 8 ธันวาคม 2532โดยบรรยายฟ้องว่าเหตุวินาศภัยเกิดต่อทรัพย์สินที่โจทก์รับประกันภัยไว้ช่วงปี 2524 ถึง 2526 เป็นการฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันวินาศภัย ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ
พิพากษายืน