คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829-830/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีฟ้องขอไถ่ถอนทรัพย์สินที่ขายฝากไว้นั้นทรัพย์พิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากผู้ขายฝากจะได้กรรมสิทธิ์กลับคืนก็ต่อเมื่อได้ใช้สิทธิไถ่ถอนทำการไถ่ถอนแล้วคดีเป็นกรณีเฉพาะเรื่องขอให้ศาลบังคับให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนของผู้รับซื้อฝากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทยังคงเป็นของผู้รับซื้อฝากดอกผลทุกประการที่เกิดจากทรัพย์สินนั้นย่อมตกเป็นของผู้รับซื้อฝากการที่ผู้ขายฝากจะต้องเสียหายเพราะผู้รับซื้อฝากไม่ยอมรับชำระหนี้ประการใด ก็เป็นเรื่องที่ผู้ขายฝากจะต้องว่ากล่าวให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสิทธิที่ผู้ขายฝากจะบังคับใช้ได้ทางโรงศาลผู้ขายฝากยังไม่มีเหตุผลจะมายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ขายฝากบนที่พิพาทในระหว่างพิจารณา โดยขอให้ตั้งผู้จัดการทรัพย์หรือให้นำดอกผลของทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากมาวางศาล

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากไว้คืนจากจำเลยโดยอ้างว่าได้ขอไถ่ภายในกำหนดเวลา จำเลยไม่ยอมให้ไถ่

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มาขอไถ่ตามกำหนด เพราะโจทก์ไม่มีเงินไถ่

ระหว่างพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์บนที่พิพาทในระหว่างพิจารณาโดยขอให้ศาลตั้งผู้จัดการทรัพย์สินที่พิพาทนี้ จำเลยแถลงคัดค้าน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่ายังไม่มีเหตุผลที่ศาลจะตั้งผู้จัดการทรัพย์พิพาทให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ทรัพย์พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโจทก์จะได้กรรมสิทธิ์กลับคืนไปก็ต่อเมื่อโจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนทำการไถ่ถอนแล้ว ดอกผลทุกประการที่เกิดจากทรัพย์สินนั้นย่อมตกเป็นของจำเลย การที่โจทก์จะต้องเสียหายเพราะจำเลยไม่ยอมชำระหนี้ประการใด ก็เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสิทธิที่โจทก์จะบังคับใช้ได้ทางโรงศาลโจทก์ยังไม่มีเหตุผลจะมาขอให้ตั้งผู้จัดการทรัพย์หรือให้นำดอกผลของทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยมาวางศาล

พิพากษายืน

Share