คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามฟ้องโจทก์อ้างว่า จำเลยกู้และรับเงินไปจาก อ. สามีโจทก์ ตามสัญญากู้หมาย จ. 8 จำนวนเงิน 142,800 บาท แล้วนำสืบว่าหนี้ตามสัญญากู้หมาย จ.8 มีมูลหนี้อันเกิดจากหนี้เงินที่จำเลยกู้ อ. ไป 80,000 บาท ตามสัญญากู้หมาย จ.3 แล้วต่อมาจำเลยกู้เงินเพิ่มและมีการแปลงหนี้ใหม่มาเป็นสัญญากู้ฉบับที่โจทก์นำมาฟ้อง การนำสืบดังกล่าวนี้ก็เป็นการนำสืบถึงที่มาของหนี้ที่โจทก์ฟ้องว่ามีมูลหนี้เดิมเป็นมาอย่างไร ซึ่งโจทก์มีสิทธิที่จะนำสืบได้ ไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็นต่างไปจากคำฟ้อง
แม้หนี้เดิมตามสัญญากู้หมาย จ.3 นั้น อ. เจ้าหนี้ได้แทงเพิกถอนไปแล้ว และได้นำมารวมยอดเป็นเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันขึ้นใหม่ เงินกู้นี้จำเลยไม่ได้ชำระ ดังนี้ หนี้ตามสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้อง ยังถือไม่ได้ว่าได้มีการแปลงหนี้ใหม่ อันจะเป็นเหตุให้หนี้เงินกู้เดิมนั้นระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349 จำเลยยังต้องรับผิดในหนี้เดิมตามมาตรา 351

Share