แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ประจักษ์พยานโจทก์เบิกความขัดแย้งแตกต่างกันเกี่ยวกับลักษณะการค้นตัวสถานที่ค้นตัวและสถานที่ที่นำตัวจำเลยไปย่อมทำให้รับฟังไม่ได้แน่ชัดว่ามีการค้นตัวโดยชอบหรือไม่ที่ใด และจับจำเลยได้จากที่ไหนพยานโจทก์จึงขาดความเชื่อถือไม่สามารถรับฟังได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง เมื่อเพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ และลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญาแล้วคงจำคุกจำเลย 2 ปี 3 เดือน ริบของกลาง
จำเลยอุทธทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ของกลางริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์มีร้อยตำรวจโทสนั่น อิ่มใจ และจ่าสิบตำรวจทวีศักดิ์ อ่อนสหะ เป็นประจักษ์พยานโดยในการค้นเฮโรอีนของกลางจากจำเลยนั้น ร้อยตำรวจโทสนั่นเบิกความว่า ร้อยตำรวจโทสนั่นค้นกระเป๋ากางเกงขวาของจำเลยก่อนเมื่อพบเฮโรอีนของกลางแล้วได้ค้นที่อื่นด้วย แต่จ่าสิบตำรวจทวีศักดิ์เบิกความว่าร้อยตำรวจโทสนั่นตรวจค้นจำเลยจากส่วนหน้าอกลงไปก่อนหลังจากนั้นไม่นานจึงพบเฮโรอีนของกลาง และร้อยตำรวจโทสนั่นเบิกความว่าค้นจำเลยที่กลางซอยเฉลิมลาภ ห่างปากซอยประมาณ 500 เมตร ส่วนจ่าสิบตำรวจทวีศักดิ์ เบิกความว่าจับกุมจำเลยได้ห่างจากปากซอยเฉลิมลาภประมาณ 50 เมตร และร้อยตำรวจโทสนั่นเบิกความว่า จับจำเลยได้แล้วให้เจ้าพนักงานตำรวจใต้บังคับบัญชานำจำเลยไปรอที่รถต่อมาร้อยตำรวจโทสนั่นจึงไปจับนายสัญชัยได้ แต่จ่าสิบตำรวจทวีศักดิ์เบิกความว่าเมื่อจับจำเลยได้แล้วพาจำเลยไปด้วยถึงปากซอยก็จับนายสัญชัยได้อีกคนหนึ่ง จำเลยนำสืบว่าจำเลยเดินไปถึงปากซอยลือชาก็ถูกเจ้าพนักงานตำรวจค้นตัวแต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่เจ้าพนักงานตำรวจกลับจับจำเลยขึ้นรถไปสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ลักษณะการค้าตัว สถานที่ค้นตัว และการนำตัวจำเลยเดินทางไปเป็นข้อสำคัญเพราะจำเลยนำสืบโต้แย้ง เมื่อประจักษ์พยานโจทก์เบิกความขัดแย้งแตกต่างในข้อดังกล่าว ย่อมรับฟังไม่ได้แน่ชัดว่ามีการค้นตัวโดยชอบหรือไม่ที่ใด และจับจำเลยได้จากที่ไหนจึงทำให้น้ำหนักคำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์ขาด่ความเชื่อถือไม่สามารถรับฟังได้โดยปราศจากความสงสัย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุสงสัยจึงเป็นการชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขี้น
พิพากษายืน.