คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทรัพย์ซึ่งเป็นสินเดิมของภรรยาซึ่งเอามาบริคณห์กลายเป็นสินบริคณห์ในเวลาแต่งงานนั้น เมื่อสามีตายแล้ว สินบริคณห์นั้นย่อมตกเป็นทรัพย์ของภรรยาตามเดิม เจ้าหนี้ส่วนตัวมีสิทธิยึดเอาชำระหนี้ได้
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.148-271

ย่อยาว

คดีนี้เดิม ล.จำเลยโอนที่ดินรายพิพาทให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ ที่รายนี้เดิมเป็นสินเดิมของจำเลย แล้วมากลายเป็นสินบริคณห์ระหว่างจำเลยกับสามี ป.สามีจำเลยจึงฟ้องโจทก์ขอให้ทำลายการโอนแลสัญญากู้เงิน คดีถึงที่สุดศาลตัดสินให้โจทก์โอนคืนที่ดินให้ ล.จำเลยแลเป็นสินบริคณห์ตามสภาพเดิม แต่ข้อที่ ล.กู้เงินโจทก์นั้นตัดสินว่าการกู้นี้มิพึงจะผูกพันสินบริคณห์ได้
ต่อมา ป.สามีจำเลยวายชนม์ลงโจทก์จึงยื่นคำร้องขอยึดที่ดินรายพิพาทนี้ชำระหนี้เงินกู้
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าที่รายนี้ปรากฏว่าเดิมเป็นสินเดิมของ ล.จำเลย เมื่อ ป.สามีจำเลยวายชนม์แล้ว ก็เป็นทรัพย์ของ ล. หาคงเป็นสินบริคณห์อยู่ต่อไปอีกไม่ แลข้อที่จำเลยอ้างว่าการกู้เงินเป็นโมฆะจะใช้บังคับไม่ได้อีกนั้น เห็นว่าศาลได้พิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วว่าไม่เป็นการผูกพันสินบริคณห์เท่านั้น จะรื้อขึ้นเถียงเป็นอย่างอื่นอีกมิชอบฉะนั้นเมื่อทรัพย์รายนี้พ้นจากสินบริคณห์กลับเป็นทรัพย์ของ ล.โจทก์จึงมีสิทธิยึดได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ที่ให้โจทก์ยึดที่รายพิพาทนี้ชำระหนี้

Share