คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรมเหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 วรรคสอง จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าบันทึกเปรียบเทียบคดีมรดกของกรมการอำเภอกิ่งคำชะอีไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเรียกทรัพย์มรดกตามฟ้องราคา 6,000 บาท คืน

จำเลยต่อสู้ว่า บันทึกเปรียบเทียบดังกล่าวนั้นชอบด้วยกฎหมายและทรัพย์ที่พิพาทไม่ใช่มรดก

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บันทึกคำเปรียบเทียบของกิ่งอำเภอคำชะอีไม่มีผลผูกมัดโจทก์ ให้จำเลยแบ่งนาพิพาทที่โจทก์ฟ้องทั้งสองแปลงกับที่บ้าน, เรือน, ยุ้งข้าวกึ่งหนึ่งให้โจทก์ กับให้คืนกระบือ 7 ตัว ข้าว 100 หมื่นให้โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมเท่าที่โจทก์ชนะ 3,250 บาทแทน และให้จำเลยเสียค่าทนาย 150 บาทแทนโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าสัญญาแบ่งมรดกซึ่งทำกัน ณกิ่งอำเภอคำชะอีเป็นโมฆียะกรรม สามีโจทก์ไปบอกล้างยังกิ่งอำเภอคำชะอีใช้ไม่ได้ ตัวโจทก์ไม่มีสิทธิบอกล้างเอง การที่สามีโจทก์อนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกล้าง พิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่ผู้พิพากษานายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่า จำเลยได้ทราบถึงการบอกล้างแล้ว อย่างไรก็ดีตัวโจทก์เองมีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมได้ ควรพิพากษายืนในผลที่ให้แบ่งมรดกไปตามกฎหมาย

นายนามผู้รับมรดกความโจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ทำนิติกรรมโดยถูกกลฉ้อฉลหรือข่มขู่ดังโจทก์ฟ้อง ทรัพย์มรดกที่ปกครองแทนกันเช่นคดีนี้เป็นสินบริคณห์ และนิติกรรมรายนี้เป็นโมฆียะกรรมดังศาลอุทธรณ์ชี้ขาดมา เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าขณะที่ภรรยาทำนิติกรรมนั้น สามีรู้เห็นอยู่ด้วย และไม่คัดค้านเช่นคดีนี้นิติกรรมรายนี้ก็สมบูรณ์ตามกฎหมาย นายนาม (สามีโจทก์) ไม่มีสิทธิบอกล้างในภายหลัง ทั้งการบอกล้างก็ไม่ได้บอกแก่ตัวจำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญา ส่วนความเห็นแย้งที่ว่า ตัวหญิงมีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมได้นั้น เห็นว่ากฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรมเหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วย ฉะนั้น ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 วรรค 2 จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้ และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์ ค่าธรรมเนียม ค่าทนายให้เป็นพับไปทั้ง 3 ศาล

Share