แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยที่1ดูแลการปรับที่ดินแทนแม้ผู้เสียหายสัญญาว่าเมื่อปรับพื้นที่เรียกร้อยแล้วจะยอมให้จำเลยที่1ทำประโยชน์ในที่ดินเป็นเวลา3ปีก็ตามแต่ระหว่างปรับที่ดินของผู้เสียหายจำเลยที่1ย่อมอยู่ในฐานะผู้ดูแลการปรับพื้นที่แทนผู้เสียหายเท่านั้นหาใช่ผู้เสียหายมอบการครอบครองที่ดินที่จะปรับให้จำเลยที่1ครอบครองไม่เมื่อฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยที่1ขุดบ่อหรือสระโดยยกดินที่ขุดได้ให้ผู้ขุดเป็นการตอบแทนการที่จำเลยที่1จัดการให้จำเลยที่2ขุดเอาดินในที่ดินของผู้เสียหายไปจึงเป็นการเอาทรัพย์ซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายไปโดยทุจริตเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หาใช่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้รถแมคโครขุดลักดินจากที่ดินของนายสุโพธิ์ พลกระจาย ผู้เสียหาย เป็นบริเวณเนื้อที่ 3 ไร่ คิดเป็นราคาเนื้อดินที่จำเลยทั้งสองกับพวกลักไป120,000 บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนทรัพย์หรือใช้ราคาเป็นเงิน120,000 บาท แก่ผู้เสียหายด้วย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) จำคุก 1 ปี และให้จำเลยที่ 1คืนหรือใช้ราคาดินเป็นเงิน 120,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
จำเลย ที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า นายสุโพธิ์ พลกระจาย ผู้เสียหายเป็นผู้ใหญ่บ้านโนนหอม ตำบลเพ็กใหญ่ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น และมีที่ดินอยู่ที่หมู่บ้านหนองไม้แก่น หมู่ที่ 2 ตำบลเจาทองกิ่งอำเภอภักดีชุมพลจังหวัดชัยภูมิ เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ตามวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 ได้ให้จำเลยที่ 2 นำรถไถแมคโครมาขุดดินในที่ดินดังกล่าวจนมีลักษณะเป็นบ่อ จำนวน 2 บ่อ เนื้อที่ประมาณ3 ไร่ ตามแผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุ เอกสารหมาย ป.จ.6คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงรับฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายหรือคนของผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยที่ 1 นำจำเลยที่ 2 มาขุดดินไปเพื่อแลกเปลี่ยนกับการปรับพื้นที่ตามที่จำเลยที่ 1 อ้าง เชื่อว่าจำเลยที่ 1 กระทำไปเองโดยพลการและได้ความจากร้อยตำรวจโทชุมพล คร้ามบุญลือพนักงานสอบสวน ประกอบกับแผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุเอกสารหมาย ป.จ.6 ว่า สระแรกกว้างประมาณ 18 เมตรยางประมาณ 80 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร สระที่สองกว้างประมาณ19 เมตร ยาวประมาณ 55 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร ลักษณะเป็นการใช้รถแมคโครขุดและดินที่ขุดจากสระทั้งสองดังกล่าวไม่ปรากฏว่ากองอยู่ที่ขอบสระหรือบริเวณใกล้เคียง ส่วนรอบบริเวณที่ดินดังกล่าวเป็นที่โล่งเตียนและเป็นทุ่งนาของผู้เสียหาย สภาพที่ดินตามคำเบิกความของพนักงานสอบสวนจึงมิใช่การปรับที่ดินตามที่ผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยที่ 1 ดูแลแทนตามเอกสารหมาย ป.จ.2และจำเลยที่ 1 อ้างว่า ผู้เสียหายสัญญาว่าเมื่อปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้วจะยอมให้จำเลยที่ 1 ทำประโยชน์ในที่ดินเป็นเวลา 3 ปีดังนั้นระหว่างปรับที่ดินของผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ย่อมอยู่ในฐานะผู้ดูแลการปรับพื้นที่แทนผู้เสียหายเท่านั้น หาใช่ผู้เสียหายมอบการครอบครองที่ดินที่จะปรับให้จำเลยที่ 1 ครอบครองไม่ เมื่อฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยที่ 1 ขุดบ่อหรือสระโดยยกที่ดินที่ขุดให้ผู้ขุดเป็นการตอบแทนดังที่วินิจฉัยมาแล้ว การที่จำเลยที่ 1จัดการให้จำเลยที่ 2 ขุดเอาดินในที่ดินของผู้เสียหายไป และได้ความจากผู้เสียหายว่าหลังจากตอบจดหมายของจำเลยที่ 1 ตามเอกสารหมาย ป.จ.2 แล้วประมาณ 10 วัน นางมอดซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านกุดไม้แก่น (ที่ถูกหนองไม้แก่น) ได้มาบอกผู้เสียหายว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้เกรดที่ตามที่ตกลงแต่กลับขุดดินไปขายเมื่อผู้เสียหายมาสอบถามจำเลยที่ 1 ก็ยอมรับว่าได้ขุดดินไปขายจริง ผู้เสียหายจึงเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 120,000 บาท การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการเอาทรัพย์ซึ่งอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายไปโดยทุจริตเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หาใช่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ซึ่งผู้เสียหายจะต้องดำเนินคดีภายใน3 เดือน ตามที่จำเลยที่ 1 กล่าวอ้างในฎีกาไม่ ฎีกาของจำเลยที่ 1ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน