คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1693/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยรวม11กระทงจำคุกกระทงละไม่เกิน2ปีการวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในปัญหาว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจหรือไม่และคดีมีเหตุรอการลงโทษหรือไม่นั้นจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงและพฤติการณ์แห่งคดีตลอดจนดุลพินิจของศาลล่างทั้งสองเป็นข้อชี้ขาดตัดสินฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335,357, 264, 265, 268, 83, 91, 33 และริบใบบันทึกการขายของกลางด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจรและความผิดเกี่ยวกับเอกสารตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 วรรคหนึ่ง 265, 268 วรรคหนึ่ง, 83 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ลงโทษฐานรับของโจรจำคุก 3 ปี ฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอมให้ลงโทษฐานใช้เอกสารสิทธิปลอมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 วรรคสอง จำคุก กระทงละ 1 ปี รวม 10 กระทง จำคุก10 ปี รวมจำคุก 13 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเมื่อสืบพยานโจทก์ได้เพียง 1 ปาก เป็นการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งการกระทำความผิดเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 6 ปี 6 เดือน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบคำแถลงของผู้รับมอบอำนาจของธนาคารซิตี้แบงก์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้ออกบัตรเครดิตให้แก่นายสมาน พุทธรักษาผู้เสียหาย และเป็นผู้ชำระเงินให้แก่ร้านค้าที่เรียกเก็บเงินเนื่องจากการใช้บัตรเครดิตดังกล่าวของจำเลยกับนายถาวร นามวงศ์ จำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4056/2538 ของศาลชั้นต้นแล้วไม่มีเหตุรอการลงโทษและปรากฏว่าศาลในคดีอาญาดังกล่าว มีคำสั่งให้ริบของกลางไว้แล้วจึงไม่สั่งริบอีก ส่วนข้อหาอื่นให้ยก
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยรวม 11 กระทง จำคุกกระทงละไม่เกิน 2 ปี ซึ่งฎีกาของจำเลยมีปัญหา 2 ข้อ คือจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจหรือไม่และคดีมีเหตุรอการลงโทษหรือไม่ การจะวินิจฉัยปัญหาทั้ง 2 ข้อดังกล่าวจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงและพฤติการณ์แห่งคดีตลอดจนดุลพินิจของศาลล่างทั้งสองเป็นข้อชี้ขาดตัดสินฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ฎีกาของจำเลยจึงไม่ชอบ แม้ศาลชั้นต้นจะรับฎีกาของจำเลยไว้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายก ฎีกา ของ จำเลย

Share