คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่แสดงว่าคู่สัญญาตกลงเลิกสัญญากันแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนที่ดิน ถ้าบังคับไม่ได้ก็ขอให้คืนเงินที่โจทก์ชำระไปแล้วกับค่าเสียหายอีกด้วยโดยอ้างว่าจำเลยกระทำผิดสัญญา ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยได้ยินยอมเลิกสัญญากันแล้วดังนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเงินที่โจทก์ชำระไว้แล้วตามมาตรา 319 ได้ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
สัญญาซื้อขายที่ดิน มีข้อตกลงว่าชำระราคาค่าที่ดินครบถ้วนแล้วจะไปทำโอนกันนั้น มีผลเป็นสัญญาจะซื้อขายเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำหนังสือสัญญาขายที่ดินรวม 5 โฉนด ให้แก่โจทก์เป็นเงิน 9,325 บาทโดยโจทก์ได้ชำระเงินราคาที่ดินในวันทำสัญญาเป็นเงิน 1,325 บาท และผ่อนใช้เป็นงวด ๆ ตามข้อตกลงตลอดมา รวมเป็นเงินที่จำเลยรับไปแล้ว 6,925 บาท จำเลยผิดสัญญาโดยโอนที่ดินดังกล่าวแล้วให้ผู้อื่นไป จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนที่ดินให้กับโจทก์ ถ้าบังคับไม่ได้ก็ให้คืนเงิน 5,925 บาท ที่โจทก์ชำระไปแล้วแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เนื่องจากจำเลยผิดสัญญา

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ผิดสัญญาจึงพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พฤติการณ์ระหว่างโจทก์จำเลยแสดงว่าโจทก์จำเลยได้เลิกสัญญากันแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องว่ากล่าวว่าจำเลยกระทำผิดสัญญาอย่างใดได้ แต่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าที่ดินที่ได้ชำระไปแล้ว เพื่อให้โจทก์ได้กลับคืนสู่ฐานะเดิมตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 319 จึงพิพากษาแก้ให้จำเลยคืนเงิน 5,925 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันจำเลยวางเงินจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์

Share