แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยถูกโจทก์ทั้งสี่ฟ้องคดีนี้โดยอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาท จำเลยได้ฟ้องขับไล่โจทก์ทั้งสี่ออกจากที่ดินพิพาทและเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี ส่วนคดีนี้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 144 พิพากษายกฟ้อง การที่ศาลฎีกาได้ส่งคดีที่จำเลยได้ฟ้องโจทก์ทั้งสี่คืนไปยังศาลชั้นต้นเพื่อให้พิจารณาและพิพากษาใหม่นั้นคดีดังกล่าวเท่านั้นที่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144(4) ที่ศาลชั้นต้นจะดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำได้ ไม่ ใช่ คดีนี้ซึ่งไม่มีกรณีเข้าข้อยกเว้นที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำได้ กรณีของโจทก์จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสี่เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาทได้ลงชื่อในใบมอบฉันทะให้จำเลยไปรับ น.ส.3 ก. แทน แต่จำเลยกลับนำไปขายและจำนองไว้กับธนาคาร ขอให้ส่งคืน น.ส.3 ก. เพิกถอนการซื้อขายและจำนองออกจาก น.ส.3 ก. ทุกฉบับ
จำเลยให้การว่า ได้ซื้อที่ดินพิพาททุกแปลงจากโจทก์ทั้งสี่โดยชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยถูกโจทก์ ฟ้องทั้งสี่ฟ้องคดีนี้แล้ว จำเลยได้ฟ้องขับไล่โจทก์ทั้งสี่ออกจากที่ดินพิพาท ศาลได้พิพากษาในคดีดังกล่าวว่าที่ดินพิพาททุกแปลงเป็นของจำเลย ให้ขับไล่โจทก์ทั้งสี่ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 633-636/2524 ของศาลชั้นต้นสำหรับคดีนี้มีประเด็นว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทจึงเป็นประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว คดีโจทก์ทั้งสี่จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 และกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำแต่คดีปรากฏในชั้นอุทธรณ์ว่า คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 633-636/2525ของศาลชั้นต้นนั้น ศาลฎีกาได้ส่งคืนไปยังศาลชั้นต้นเพื่อให้พิจารณาและพิพากษาใหม่ กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144(4) และมีเหตุสมควรที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาโดยวินิจฉัยประเด็นแห่งคดีและพิพากษาใหม่ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าคดีนี้กรณีต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 144(4) หรือไม่กับคดีมีเหตุอันสมควรที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยประเด็นแห่งคดีและพิพากษาใหม่หรือไม่ ข้อเท็จจริงปรากฏในชั้นฎีกาว่า คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 633-636/2525 ที่ศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่นั้น ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาใหม่เสร็จแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 144 นั้นมีความหมายว่า เมื่อศาลใดมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดไปแล้วมิให้ศาลนั้นดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยไปแล้วเว้นแต่จะต้องข้อยกเว้น (1) ถึง (5) ศาลชั้นต้นจึงจะดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำได้ในคดีนั้นเอง ในที่นี้หมายถึงคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 633-636/2525 ของศาลชั้นต้นซึ่งจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ไม่ใช่คดีนี้สำหรับคดีนี้ในเมื่อกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำได้ กรณีจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำดังจำเลยฎีกา จึงไม่มีเหตุที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่แต่อย่างใด
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสี่.