คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้และขอให้ริบไม้ยางของกลาง ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยฟังว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด จะริบไม้ของกลางในเมื่อยังไม่มีการวินิจฉัยชี้ขาดว่า ได้มีการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยจ้างให้บุคคลอื่นตัดฟันต้นยางซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. โดยไม่ได้รับอนุญาต และมิได้รับสัมปทานและบังอาจมีไม้ยางที่ตัดฟันโดยไม่รับอนุญาต ซึ่งยังมิได้แปรรูปนั้นไว้ในความครอบครอง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๑, ๖๙, ๗๓, ๗๔; (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๖; (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๒, ๑๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๘, ๔๘ และขอให้ริบไม้ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ แถลงว่าของกลางเป็นไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ของจำเลย ไม่ควรริบ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยจ้างคนอื่นตัดฟันไม้ของกลาง และยังไม่พอฟังว่าจำเลยเข้าครอบครองไม้ของกลาง พิพากษายกฟ้องไม้ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ ไม้ของกลางจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เมื่อจำเลยไม่ได้กระทำผิดจะริบไม้ของกลางจึงมิชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา ๗๔
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม้ของกลางถูกตัดโดยไม่รับอนุญาตหรือสัมปทาน แต่ไม่รู้ตัวคนตัดเท่านั้น ไม้ของกลางจึงเป็นไม้ที่ได้มาเนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ตามมาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ กินความถึงไม้ในกรรมสิทธิ์ของบุคคลใด ๆ ด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบไม้ของกลางชอบแล้ว พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๗๔ บัญญัติว่า “บรรดาไม้หรือของป่าอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ ให้ริบเสียทั้งสิ้น”
พิเคราะห์แล้ว โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ และขอให้ริบไม้ยางของกลาง เนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยศาลพิพากษายกฟ้อง โดยฟังว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ฉะนั้น ศาลจึงจะริบไม้ยางของกลางในเมื่อยังไม่มีการวินิจฉัยชี้ขาดว่าได้มีการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่ได้
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นไม่ริบไม้ของกลาง

Share