แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อปรากฎว่าได้อุทธรณ์การประเมินภาษีของเจ้าพนักงานเกินกำหนดเวลา 15 วันแล้วแม้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะสั่งยกอุทธณ์เพราะยื่นเกินกำหนดแล้วจะได้ให้เหตุผลไว้ในคำสั่งด้วยว่า ผู้อุทธรณ์ขายที่ดินเป็นการค้ากำไร ก็ไม่ทำให้คำชี้ขาดยกอุทธรณ์นั้นเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น และผู้อุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจจะโต้แย้งการประเมินต่อไป
การอุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 วรรค 3 มาตรา 227,247 นั้น เสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ข. ถึงแม้จะได้ความว่าในศาลชั้นต้นได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์มาแล้วก็ตาม.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่สั่งให้โจทก์เสียภาษีการค้าที่ดิน
จำเลยให้การว่าโจทก์ขายที่ดินเป็นการค้าหากำไร โจทก์อุทธรณ์เกินกำหนด ๑๕ วันนับแต่รับแจ้งการประเมิน ฟ้องคดี ไม่ได้
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วสั่งงดสืบพยาน แล้วพิพากษาว่าโจทก์อุทธรณ์เกินกำหนด ถือว่าไม่มีอุทธรณื ฟ้องคดีนี้ไม่ได้ อ้างฎีกาที่ ๑๔๙๕/๒๔๙๓,๓๕๕/๒๔๙๒ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๐ ข้อ ๑ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๕ ต้องอุทธรณ์การประเมินของเจ้าพนักงานภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันรับแจ้งการประเมิน เรื่องนี้โจทก์รับแจ้งการประเมินเมื่อ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๐๑ โจทก์ยื่นอุทธรณ์เมื่อ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๐๑ เกิน ๑๕ วัน แม้ในคำสั่งยกอุทธรณ์นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนอกจากจะให้เหตุผลว่าอุทธรณ์เกินกำหนดแล้ว จะให้เหตุผลด้วยว่า โจทก์ขายที่ดินเป็นการค้ากำไร ก็ไม่ทำให้อทุธรณ์กลับเป็นอุทธรณ์ที่ชอบและไม่ทำให้คำชี้ขาดที่ให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ซึ่งยื่นเกินกำหนดมีผลเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โจทก์ไม่มีอำจาจจะรื้อการประเมินขึ้นโต้แย้งต่อไปได้
ศาลฎีกาเห็นว่าคำขอในฎีกาของโจทก์เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามตาราง ๑ ข้อ ๑ คือ ให้ศาลชี้ขาดว่าโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามจำนวนที่จำเลยสั่งให้โจทก์เสียภาษีการค้า โจทก์เสียค่าขึ้นศาลมาในศาลชั้นต้นจึงเป็นการชอบแล้ว แต่คดีนี้ศาลชั้นต้นชี้ขาดเบื้องต้นทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔ วรรค ๒ โจทก์อุทธรร์ฎีกาต่อมาตามมาตรา ๒๔ วรรค ๓ ,๒๒๗,๒๔๗ ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามตาราง ๑ ข้อ ๒ ข. เรื่องละ ๕๐ บาท ที่โจทก์เสียมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ฎีกาตามจำนวนทุนทรัพย์จึงเกินไป
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์ ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ฎีกาที่เกินกว่าศาลละ ๕๐ บาทให้โจทก์.