คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5366/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยรู้อยู่แล้วว่าโรงงานที่จำเลยรับจ้างทำการแปรรูปไม้ ตั้งขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำของจำเลยถือได้ว่า เป็นความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดฐานตั้ง โรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 7, 48, 73, 74 ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2503 มาตรา 18 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518มาตรา 7, 19, 28 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522มาตรา 7, 9 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2525 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และขอเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และขอให้ริบของกลางทั้งหมด จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48,73 วรรคแรก, 74, 75 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 7, 19, 28พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 9พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2525 มาตรา 4 ลงโทษฐานสนับสนุนตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 5 เดือนฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ฐานสนับสนุนมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 15 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย10 เดือน ให้ริบของกลางทั้งหมด จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต คงลงโทษฐานแปรรูปไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 6 เดือน ฐานสนับสนุนการมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 10 เดือนเมื่อลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78แล้วคงจำคุก 6 เดือน 10 วัน นอกจากมีที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ได้ความจากนางสีดา เรือนคำผู้ใหญ่บ้านว่าจำเลยเป็นลูกบ้าน มีอาชีพรับจ้าง ไม่เคยทำประตูหน้าต่างส่งขายเอง และร้อยตำรวจโทวิภาส แสงศศิธรพนักงานสอบสวนว่าเมื่อจำเลยถูกจับกุมพร้อมของกลางไปส่งที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ได้สอบถามจำเลยจำเลยว่าไม่ใช่เจ้าของโรงงาน แต่เป็นลูกจ้างนายเจริญ กองโกยรับจ้างทำการแปรรูปไม้ได้ค่าจ้างวันละ 50 บาท และในชั้นจับกุมนายอารักษ์ ชุมจิตร และนายเกษม เพชรโก เจ้าพนักงานป่าไม้ผู้ตรวจและจับกุมจำเลยเบิกความยืนยันว่า วันเวลาเกิดเหตุได้ตรวจไปถึงที่เกิดเหตุ เมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลื่อยไม้ดังมาจากหลังบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่ง ได้พากันไปตรวจพบจำเลยนี้กับพวกกำลังทำการแปรรูปไม้อยู่ใต้เพิงในป่ากล้วยหลังบ้านไม่มีเลขที่ดังกล่าวจึงได้เข้าทำการจับกุมจำเลยได้ ส่วนพวกของจำเลยอีก 2 คน หลบหนีไปได้ เมื่อจับกุมได้แล้วได้พาไปตรวจสอบพบแท่นเลื่อย 4 ตัว อุปกรณ์การแปรรูปไม้ เช่นกบไฟฟ้า มอเตอร์ใบเลื่อย และอื่น ๆ อีก หลายรายการ พบไม้แดง ไม้รังแปรรูปและหน้าต่างทำด้วยไม้แดงและไม้รัง ได้สอบถามถึงใบอนุญาตตั้งโรงงาน จำเลยว่าไม่มีใบอนุญาต ได้แจ้งข้อหาว่า จำเลยกับพวกร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันทำการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองมีปริมาณเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ได้ทำบันทึกการจับกุมทำบัญชีไม้ของกลางที่ตรวจยึดและบัญชีตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำความผิดปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 จ.2 และ จ.3 เห็นว่าตามพยานหลักฐานโจทก์ฟังได้มั่นคงว่าจำเลยได้รู้อยู่แล้วว่าโรงงานที่จำเลยรับจ้างทำการแปรรูปไม้ตั้งขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตพยานโจทก์ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยไม่มีเหตุให้ระแวงว่าจะเบิกความปรักปรำจำเลย ที่จำเลยนำสืบโต้แย้งว่าจำเลยรับจ้างนายเจริญ ได้ค่าจ้างวันละ 65 บาท เข้าใจว่าทำโดยถูกต้องตามกฎหมายเป็นคำเบิกความของจำเลยแต่เพียงปากเดียวลอย ๆไม่มีพยานอื่นเบิกความสนับสนุน ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหานี้ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานสนับสนุนการตั้งโรงงานแปรรูปโดยไม่รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 วรรคแรก ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 จำคุก 5 เดือน ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 วรรคแรก จำคุก 6 เดือน ฐานสนับสนุนการมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 วรรคแรก ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 15 เดือน เมื่อลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้วคงจำคุก 10 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share