คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทผู้ชนะความจะยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้เพื่อขายทอดตลาดไม่ได้เพราะกัมสิทธิตกหยู่แก่ผู้รับซื้อฝาก ไม่ไช่ตกหยู่แก่จำเลย
ไนกรนีที่โจทยึดทรัพย์ซึ่งจำเลยขายฝากไว้จำเลยร้องคัดค้านได้ โดยถือว่าเปนผู้มีส่วนได้เสียตามวิธีพิจารนาความแพ่งมาตรา 280
ไรกรนียึดทรัพย์เมื่อโจทอุธรน์ดีกา ก็ต้องเสียค่าขึ้นสาล เพราะถือว่าอุธรน์และดีกานั้นเปนคำฟ้อง

ย่อยาว

โจทชนะความแล้วยึดที่ดินโฉนดที่ ๔๕๒๐ เพื่อขายทอดตลาด ปรากตไนโฉนดว่า นายนิคมซึ่งเปนผู้รับมรดกความโจทเปนผู้รับซื้อฝากไว้จากนายเรินจำเลยและนายบุญมีตั้งแต่ พ.ส.๒๔๘๔ นายเรินและนายบุญมีแถลงคัดค้านต่อสาลว่า โจทไม่มีอำนาดยึด เพราะกัมสิทธิ์ได้โอนไปยังนายนิคมแล้ว จำเลยมีสิทธิแต่จะไถ่คืนเท่านั้น สาลจะขายทอดตลาดที่แปลงนี้ไม่ได้นายนิคมแถลงว่าตนเองเปนทั้งผู้รับซื้อฝากและเปนโจท โจทยอมรับไถ่และเอาเงินไนหน้าที่ของโจท ขอไห้สาลประกาสขายต่อไป
สาลชั้นต้นเห็นว่า กัมสิทธิหยู่ที่นายนิคมผู้รับซื้อฝากแล้วโจทมีสิทธิเพียงจะยึดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ หาไช่ยึดตัวทรัพย์ไม่ การยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดจึงผิดวิธีพิจารนา ไห้ถอนการยึด ไห้โจทเสียค่าทำเนียมและค่าทนายแทนผู้ร้อง
โจทอุธรน์สาลอุธรน์พิพากสายืน แต่ไห้แก้ฉเพาะว่าโจทไม่ต้องเสียค่าทำเนียมค่าทนายแทนจำเลยหรือผู้ร้อง
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่า ที่ดินนี้ขายฝากแล้วจึงไม่ไช่ทรัพย์ของจำเลย โจทนำยึดที่ดินนี้ไม่ได้ สำหรับค่าขึ้น สาลชั้นอุธรน์และดีกานั้น โจทต้องเสียเพราะเปนค่าฟ้องต่อสาลอุธรน์และสาลดีกา จึงต้องเสียค่าขึ้นสาลตามอัตราที่กำหนดไว้จึงพิพากสายืนตามสางล่าง แต่ได้โจทเสียค่าทนายแทนนายบุญมีและนายเรินอีก ๒๕ บาท เพราะคนทั้งสองนี้เปนบุคคลซึ่งชอบที่จะไช้สิทธิอันได้จดทเบียนไว้โดยชอบ มีส่วนได้เสียไนการบังคับคดีตามวิธีพิจารนาความแพ่งมาตรา ๒๘๐ และเข้าเปนคู่ความมาแต่ต้นทั้งได้แก่ดีกา.

Share