แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หน้าที่นำสืบ โจทก์หาว่าจำเลยแจ้งความเท็จ เมื่อโจทก์สืบไม่ได้ว่าข้อความที่จำเลยนำไปแจ้งนั้น จำเลยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเปนเท็จ จำเลยยังไม่มีผิด
ย่อยาว
โจทก์หาว่าจำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานว่า  โจทก์ลักผลตาลของจำเลย  ทำให้โจทย์ต้องถูกจับกุมกักขัง  ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย
ศาลเดิมเห็นว่าต้นตาลพิพาทอยู่ในที่บิดาโจทก์ จำเลยต้องมีผิดฐานแจ้งความเท็จ  และทำให้โจทย์เสื่อมเสียอิสระภาพตาม ม.๑๑๘ – ๒๗๐
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า  ต้นตาลอยู่ห่างเขตร์ที่ภรรยาและพี่สาวจำเลย ๗ -๘ ศอกเท่านั้น  แม้ตาลต้นนั้นจะอยู่ในที่บิดาโจทก์จริง  จำเลยอาจเข้าใจผิดคิดว่าอยู่ในที่ภรรยาและพี่สาวตนได้  การที่จำเลยไปแจ้งความนั้น  นับว่ามีมูล  และโจทก์สืบไม่ได้ว่าข้อความที่จำเลยนำไปแจ้งนั้น  จำเลยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเปนเท็จดังนี้  จำเลยยังไม่ควรมีผิด   จึงตัดสินให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยไป
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์
