คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทบันยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีกหลายคนมีอาวุธสมคบกันต่อสู้ทำร้ายเจ้าพนักงาน ขอไห้ลงโทสตามม.120 ทางพิจารนาได้ความดังกล่าวนั้นก็ลงโทสตามม.120 ตอน 2 ได้

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยที่ ๑ ถานมีสุราเถื่อนและขอไห้ลงโทสจำเลยที่ ๒ ถานมีสัตราวุธต่อสู้ขัดขวางยื้อแย่งเอาตัวจำเลยที่ ๑ ไปเสียไห้พ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงาน
สาลขั้นต้นพิจารนาแล้ว พิพากสาปรับจำเลยที่ ๑ ตามพระราชบัญญัติพาสีชั้นไนเปนเงิน ๘๐ บาท ส่วนจำเลยที่ ๒ ตามกดหมายอาญามาตรา ๑๒๐ ตอนสุด ไห้จำคุก ๑ ปี
จำเลยที่ ๒ อุธรน์ สาลอุธรน์คงพิพากสายืน
จำเลยที่ ๒ ดีกาอ้างขอไห้ลงโทสจำเลยนั้นจะต้องปรากตว่า จำเลยคุมกันเปนพักพวกตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปจึงจะลงโทสหนักได้ แต่คดีนี้โจทระบุแต่เพียงว่าจำเลยมีพวกหลายคน จึงเปนฟ้องเคลือบคลุม สาลดีกาเห็นว่าโจทระบุมาไนท้ายฟ้องอ้างมาตรา ๑๒๐ ทั้งมาตราไม่ได้เจาะจงแต่วัดไดดั่งที่จำเลยว่า แต่หย่างไรก็ดีตามมาตรา ๑๒๐ วัด ๒ นั้นจำเลยจะต้องระวางโทสหนักขึ้นไม่ฉเพาะแต่เหตุที่มีพักพวกตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปเท่านั้น การที่จำเลยมีเครื่องสัตราวุธมากะทำผิดก็เปนเหตุไห้ต้องระวางโทสหนักขึ้นเช่นกัน ฟ้องของโจทและข้อเท็ดจืงที่สาลล่างและสาลอุธรน์ฟังลงโทสจำเลยก็ฉเพาะเรื่องที่จำเลยมีสัตราวุธเข้าต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ฉะนั้นจำนวนของพักพวกของจำเลยจึงไม่ไช่ข้อสำคันอันเปนรายละเอียดที่จะต้องกล่าวไหฟ้อง ฟ้องของโจทจึงไม่เปนฟ้องเคลือบคลุม พิพากสายืน

Share