แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัทจำเลยที่ 1 จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศนั้นไม่มีสำนักงานสาขาในประเทศไทยแม้บริษัทจำเลยที่ 1 จะมอบให้บริษัทจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนในประเทศไทยก็ยังถือไม่ได้ว่าบริษัทจำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยอันจะทำให้โจทก์ฟ้องบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ เพราะภูมิลำเนาของตัวแทนไม่เป็นภูมิลำเนาของตัวการด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นบริษัทจำกัด เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานใหญ่อยู่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานดำเนินกิจการค้าในประเทศไทยตามภูมิลำเนาที่ระบุในฟ้อง โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทน จำเลยทั้งสองร่วมกันรับจ้างรับขนสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เรือแจแปนแบร์ของจำเลยที่ 1 ได้ชนเรือฉลอมของโจทก์เสียหาย ด้วยความประมาทของนายเรือแจแปนแบร์ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายให้โจทก์
ปรากฎว่าพนักงานเดินหมายส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1 ไม่ได้บริษัทจำเลยที่ 2 ยื่นคำแถลงว่า บริษัทจำเลยที่ 1มีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีสำนักงานดำเนินกิจการในประเทศไทย ภูมิลำเนาดังโจทก์อ้างในฟ้องเป็นภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 ไม่ใช่ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะรับหมายไว้แทนจำเลยที่ 1
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยที่ 1 ไม่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย โจทก์จึงไม่อาจยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ได้ ที่รับฟ้องจำเลยที่ 1 ไว้แล้วนั้น ให้จำหน่ายคดี เฉพาะตัวจำเลยที่ 1 เสีย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามทางนำสืบของโจทก์ได้ความว่า เมื่อเรือแจแปนแบร์ เข้ามาส่งสินค้าในประเทศไทย บริษัทดีทแฮล์ม จำกัดต้องติดต่อแจ้งกรมศุลกากร กองตรวจคนเข้าเมือง และกรมเจ้าท่าเรือลำนี้ถ้าบริษัทดีทแฮล์ม จำกัด ไม่ได้เป็นตัวแทน จะเข้ามาในประเทศไทยไม่ได้ นายเรือแจแปนแบร์ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือระบุว่าบริษัทดีทแฮล์ม จำกัด เป็นตัวแทนบริษัทจำเลยที่ 1 และนายสุพล หงษ์ศรี ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปในบริษัทโจทก์ มาเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่าบริษัทจำเลยที่ 1 จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศนั้น บริษัทจำเลยที่ 1 ไม่มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย และไม่ทราบว่าบริษัทจำเลยที่ 1 จะได้จดทะเบียนสาขาไว้ในประเทศไทยหรือไม่ อาคารเลขที่ 544/14 ถนนเพลินจิต เป็นที่ทำการของบริษัทจำเลยที่ 2 ไม่ใช่สำนักงานสาขาของบริษัทจำเลยที่ 1 ดังนี้ ตามทางนำสืบของโจทก์ได้ความอย่างมากก็เพียงว่า บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด เป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยที่ 1 เท่านั้น ไม่ปรากฏว่าบริษัทจำเลยที่ 1 ได้จดทะเบียนสาขาในประเทศไทย บริษัทจำเลยที่ 1 ไม่มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย และอาคารเลขที่ 544/14 ถนนเพลินจิตตามฟ้อง เป็นที่ทำการของบริษัทจำเลยที่ 2มิใช่สำนักงานสาขาของจำเลยที่ 1 จึงจะฟังว่าบริษัทจำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยหาได้ไม่ แม้จะฟังว่าบริษัทดีทแฮล์ม จำกัด เป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยที่ 1 ดังที่โจทก์ฎีกามาก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย อันจะทำให้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ได้ เพราะภูมิลำเนาของตัวแทนไม่เป็นภูมิลำเนาของตัวการไปด้วย ที่ศาลล่างทั้งสองให้จำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 นั้น ชอบแล้ว
พิพากษายืน