แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มูลคดีทางแพ่งที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้ ก็คือมูลคดีเกี่ยวกับที่พนักงานอัยการได้ฟ้องร้องโจทก์ในคดีอาญาข้อหาบุกรุก ประเด็นตามคำชี้ขาดของศาลในคดีอาญามีประเด็นอย่างเดียวกับคดีนี้ คือที่ดินพิพาทเป็นที่ดินที่โจทก์มีสิทธิครอบครองหรือเป็นที่ดินสาธารณะ คดีของโจทก์จึงเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา โจทก์เป็นคู่ความในคดีอาญานั้น แม้จำเลยทั้งสองจะมิใช่คู่ความในคดีอาญาโดยตรง แต่โดยตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองมีหน้าที่ดูแลและป้องกันมิให้ผู้ใดบุกรุกที่ดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำเลยทั้งสองจึงอยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญานั้น เท่ากับพนักงานอัยการฟ้องคดีอาญาที่จำเลยทั้งสองเป็นผู้เสียหายนั่นเอง โจทก์และจำเลยทั้งสองจึงต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวการวินิจฉัยคดีส่วนแพ่งจึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ได้ความในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตาม ป.วิ.อ.มาตรา 46 เมื่อข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินสาธารณะ จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครองแก่ ส. ผู้แจ้งการครอบครองแม้โจทก์จะซื้อที่ดินพิพาทจาก ส. และครอบครองทำประโยชน์ต่อมา โจทก์ก็หาได้สิทธิครอบครองในที่ดินดังกล่าวไม่
ย่อยาว