แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ยินยอมให้ผู้อื่นลงชื่อรับมฤดกในโฉนดที่ดินรวมทั้งส่วนของตนด้วย ถือได้ว่าผู้มีชื่อในโฉนดย่อมได้รับกรรมสิทธิโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายที่ดินแล้ว จะมาร้องขอให้เพิกถอนหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางน่วมมารดาโจทก์กับนายจู๊ดบิดาโจทก์เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายมีบุตรด้วยกัน 3 คน คือโจทก์นางยวงและนางกลีบนายจู๊ดตาย นางน่วมได้นายแจ่มเป็นสามีอีกมีบุตร 2 คน คือจำเลยและนางเนียนหรือจำเนียน นางน่วมตาย พ.ศ. 2492 ในเดือนมกราคม 2493 จำเลยเอาโฉนดเลขที่ 1688 ไปขอประกาศรับมรดก โจทก์และบุตรอื่น ๆ คัดค้าน เจ้าพนักงานเปรียบเทียบให้ใส่ชื่อในโฉนด 5 คน ส่วนของนางกลีบใส่ชื่อนายแจะบุตรนางกลีบแทน เพราะนางกลีบตาย ทรัพย์มรดกอื่น ๆ ยังไม่ได้แบ่ง ในเดือนเมษายน 2493 โจทก์ไปพูดขอแบ่งจำเลยไม่ยอม จึงขอให้บังคับ
จำเลยให้การว่าจำเลยพร้อมที่จะแบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 1688 ให้ส่วนโรง1 หลังและเรือ 1 ลำเป็นของจำเลย
นายแจ่มร้องสอดเข้ามาว่าเป็นสามีนางน่วมขอให้เพิกถอนการโอนรับมรดกที่ดินโฉนดเลขที่ 1688 เสีย ขอให้แบ่งที่ดินสินสมรส 2 ส่วนให้ผู้ร้องสอด1 ส่วน อีกส่วนหนึ่งแบ่งเป็น 6 ส่วน เป็นของผู้ร้องสอดอีก 1 ส่วน
โจทก์คัดค้านหลายประการและว่าผู้ร้องสอดได้สละสิทธิไม่เกี่ยวข้องกับที่ดินแปลงนี้แล้ว โจทก์ลงชื่อรับมรดกโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องสอดไม่มีสิทธิขอให้ทำลายนิติกรรมการรับมรดกได้
นอกจากนี้นางจำเนียน นางยวงและนายแจะได้ยื่นคำร้องขอรับมรดกตามส่วนที่ควรได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 1688 และโรงเรือนเป็น 5 ส่วนให้แก่โจทก์ จำเลย นางยวง นางจำเนียนและนายแจะคนละส่วน ให้ยกคำร้องสอดเสีย โดยฟังว่าผู้ร้องสอดได้สละส่วนได้ในที่ดินรายพิพาทแล้ว
ผู้ร้องสอดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นเรื่องผู้ร้องสอดยอมให้ที่ดินกันทางทะเบียน ซึ่งผู้รับลงชื่อในโฉนดถือกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้นไปแล้ว จะรื้อเอาคืนไม่ได้ พิพากษายืน
ผู้ร้องสอดฎีกา ข้อกฎหมายมีว่าการสละสิทธิการรับมรดกต้องทำเป็นหนังสือหรือทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความจึงจะชอบ
ศาลฎีกาฟังว่า ผู้ร้องสอดได้รู้เห็นยินยอมให้โจทก์ จำเลยนางจำเนียน นางยวงและนายแจะ ลงชื่อรับมรดกในโฉนดที่ดินพิพาทรวมทั้งของนายแจ่มในที่ดินนั้นเสร็จสิ้นไปแล้ว อันถือได้ว่าผู้มีชื่อในโฉนดได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายที่ดินผู้ร้องสอดจะขอให้เพิกถอนและขอแบ่งไม่ได้จึงพิพากษายืน