คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประเด็นสำคัญที่จำเลยที่ 1 ยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การคือเช็คพิพาทที่จำเลยที่ 1 ออกให้แก่จำเลยที่ 2 นั้นเป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยทั้งสอง โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาโดยรู้ว่าจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่จำเลยที่ 2 ผู้โอน อันเป็นการต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมายถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1ให้การต่อสู้ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1ผู้สั่งจ่ายให้ใช้เงินตามเช็คดังนั้นจำเลยที่ 1จึงมีสิทธิที่จะนำสืบพยานตามข้อต่อสู้ดังกล่าว(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1238/2501 และ 1768/2517)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค 10 ฉบับโดยชอบด้วยกฎหมาย เช็คดังกล่าว มีทั้งที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายชำระหนี้แก่จำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 2 สลักหลังชำระหนี้ให้แก่โจทก์ และเช็คที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายชำระหนี้ให้แก่โจทก์โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังโจทก์ได้นำเช็คดังกล่าวเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน จึงขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ แต่สั่งจ่ายเงินล่วงหน้าให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อชำระหนี้ค่าฟิล์มภาพยนตร์ จำเลยที่ 2 ผิดสัญญาไม่สามารถส่งมอบฟิล์มภาพยนตร์ให้แก่จำเลยที่ 1 ได้ โจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ 2 ผิดสัญญาและจะต้องคืนเช็คทั้ง 10 ฉบับให้แก่จำเลยที่ 1 โจทก์กลับรับเช็คทั้ง 10 ฉบับจากจำเลยที่ 2 ไปเรียกเก็บเงิน เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องเอาจากจำเลยที่ 1 ได้ ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ

ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 2และเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน ให้งดสืบพยานโจทก์และจำเลย

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คำให้การของจำเลยที่ 1 ไม่ชัดแจ้งว่าโจทก์กับจำเลยที่ 2 คบคิดกันฉ้อฉล จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ จำเลยที่ 1 จะอ้างข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 มาต่อสู้โจทก์ผู้ทรงเช็คไม่ได้พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินตามเช็คให้แก่โจทก์

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประเด็นสำคัญที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การคือเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับที่จำเลยที่ 1 ออกให้แก่จำเลยที่ 2 นั้น เป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยทั้งสอง โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาโดยรู้ว่าจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่จำเลยที่ 2 ผู้โอน อันเป็นการต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริต และชอบด้วยกฎหมาย ถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้ โจทก์ก็ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายให้ใช้เงินตามเช็คดังกล่าวได้ ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินตามเช็คพิพาทโดยไม่ให้จำเลยที่ 1 นำสืบพยานตามข้อต่อสู้จึงไม่ต้องด้วยกระบวนพิจารณา

พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share