คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8012/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ได้ให้คำนิยามของคำว่า “ขาย” ให้หมายความรวมถึง จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ส่งมอบ หรือมีไว้เพื่อขาย ดังนี้ เมื่อจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ใน ครอบครองเพื่อขายและพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวฐานขายเมทแอมเฟตามีนเท่านั้นเพราะการมีไว้เพื่อขายก็เป็นการขายแล้ว มิใช่มีความผิดฐานพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางอีก ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195
วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๔, ๖, ๑๓ ทวิ, ๖๒, ๘๙, ๑๐๖, ๑๐๖ ทวิ, ๑๑๖ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๘๓, ๙๒ ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและเพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ ตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่จำเลยที่ ๑ รับข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๓ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๖๒ วรรคหนึ่ง, ๘๙, ๑๐๖ ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข
โจทก์ และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ขายเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่สายลับ แต่ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบคงได้ความเพียงว่า เมื่อจำเลยที่ ๑ ดูเงินล่อซื้อที่นายประยูรแล้ว จำเลยที่ ๑ เดินไปหยิบเมทแอมเฟตามีนของลางจะมาส่งมอบให้แก่นายประยูร เจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมจำเลยที่ ๑ พร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลางที่ยังไม่ได้ส่งมอบให้แก่นายประยูร ยังอยู่ในขั้นตอนที่จำเลยที่ ๑ พยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางและศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐ อันเป็นการปรับบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานพยายามขายเมทแอมเฟตามีน ของกลางรวมกับความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อขายด้วยนั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๔ ได้ให้คำนิยามคำว่า “ขาย” ให้หมายความรวมถึง จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ส่งมอบ หรือมีไว้เพื่อขาย ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ ๑ มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อขายและพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยที่ ๑ ดังกล่าว จึงเป็นความผิดกรรมเดียวฐานขายเมทแอมเฟตามีนตามคำนิยามของบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวเท่านั้น เพราะการมีไว้เพื่อขายก็เป็นการขายแล้ว มิใช่มีความผิดฐานพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางอีกด้วย ปัญหานี้เป็น ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา ๒๒๕
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๓ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๖๒ วรรคหนึ่ง, ๘๙, ๑๐๖ ทวิ การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ ซึ่งแต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานขายเมทแอมเฟตามีนตามมาตรา ๑๓ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๘๙ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share