คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2465

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

จำเลยเปนพลตำรวจต้องโทษจำขัง ๕ เดือน ฐานหนีราชการตำรวจ ในระหว่างที่จำขังได้หนีไปอีก โจทย์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานหนีจากที่คุมขังตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๖๓ ศาลจังหวัดเพ็ชร์บูรณ์แลศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษพิพากษาต้องกันว่า การที่จำเลยต้องคุมขังนั้นเปนฐานเลมิดวินัย ตำรวจจะลงโทษจำเลยฐานหลบหนีที่คุมขังตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๖๓ ไม่ได้ ศาลฎีกาตัดสินว่าการที่จำเลยถูกคุมขังอยู่นั้นเปนการคุมขังอันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่มีใครโต้แย้ง แลศาลล่างทั้ง ๒ ก็รับรองว่าเปนการคุมขังชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยหลบหนีไป ก็เปนความผิดต่อกฎหมายอาญา มาตรา ๑๖๓ โดยตรง ศาลยุติธรรมมีอำนาจลงโทษได้ การที่ศาลล่างอ้างว่าความผิดของจำเลยนี้ผู้มีอำนาจเหนือจำเลยอาจลงโทษได้ตามกฎว่าด้วยการลงอาญาฐานเลมิดวินัยสำหรับพลตระเวร พ.ศ. ๒๔๕๘ แลอ้างถึงกฎหมายลักษณอาญา มาตรา ๑๑ ว่าบรรดาความผิดที่บัญญัติไว้ในภาค ๑ แห่งกฎหมายลักษณอาญาให้ใช้ได้ทั่วไป เว้นเสียแต่ที่มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ในกฎหมายอื่นฉนี้ เมื่อมีกฎสำหรับลงโทษอยู่แล้ว จึงจะลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๖๓ ดังโจทย์ขอไม่ได้นั้น กรรมการศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างอ้างกฎหมายไขว้เขวกันไปเพราะกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๖๓ ไม่ได้อยู่ในภาค ๑ แห่งกฎหมายลักษณะอาญา จึงเห็นว่าโจทย์ขอให้ลงโทษจำเลยผู้กระทำผิดตามกฎหมายลักษณอาญาได้ จึงให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๖๓

Share