คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องดำเนินวิธีการบังคับคดีตามขั้นตอนให้ครบถ้วนภายในกำหนด10 ปี คือต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีก่อน ขั้นต่อไปต้องแจ้งให้เจ้าพนักงาน-บังคับคดีทราบว่าศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว จากนั้นต้องแถลงต่อเจ้าพนักงาน-บังคับคดีขอให้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา บทบัญญัตินี้ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพียงแต่ขอหมายบังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งแล้วเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะดำเนินวิธีบบังคับอย่างไรต่อไปเมื่อพ้นกำหนดเวลา 10 ปีแล้วก็ได้ เพราะจะเป็นผลให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาต้องถูกบังคับคดีโดยไม่มีกำหนดเวลา และกำหนดเวลา 10 ปีตามมาตรานี้ ตามปกติย่อมต้องนับตั้งแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุดเป็นต้นไป มิใช่นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่จำเลยคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลย แต่โดยที่หนี้ตามคำพิพากษา-ศาลชั้นต้นที่มีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติซึ่งโจทก์ร้องขอให้บังคับคดีนี้นั้น จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมนความ และศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยผ่อนชำระเป็นงวดตามจำนวนเงินที่ระบุและภายในระยะเวลาที่กำหนดเป็นคราว ๆ โดยกำหนดเริ่มชำระงวดแรกในวันที่ 30 เมษายน 2524 หากผิดนัดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันทีเช่นนี้ หากจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมเลย กำหนดเวลา10 ปี ที่โจทก์จะต้องขอให้บังคับคดีแก่จำเลยจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม2524 อันเป็นวันแรกที่โจทก์อาจขอให้บังคัคบคดีแก่จำเลยได้เป็นต้นไป โจทก์ได้ยื่นคำแถลงขอให้ทำการยึดทรัพย์ของจำเลย เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2534จึงล่วงเลยเวลาที่บังคับคดีได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะบังคับคดี

Share