คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสามกับพวกได้เข้าไปในบ้านผู้มีชื่อพร้อมกันขณะนั้นเป็นเวลาดึกมากไม่ใช่เวลาที่จำเลยกับพวกจะไปปรากฏตัวอยู่ได้ก่อเหตุระรานผู้เสียหายกล่าวคือพวกของจำเลยคนหนึ่งตีผู้เสียหายอีกคนหนึ่งยิงผู้เสียหายอีกคนหนึ่งต่อหน้าต่อตาจำเลยทั้งสามแต่จำเลยทั้งสามไม่มีใครห้ามปรามเลย กลับยังอยู่เป็นกำลังใจให้พรรคพวก แล้วพวกของตนก็ยิงกระหน่ำเข้าไปในใต้ถุนเรือนซึ่งมีผู้เสียหายซ่อนอยู่อีก 6 นัดเมื่อชาวบ้านมาร้องขอจำเลยทั้งสามกับพวกจึงพากันออกจากบ้านผู้มีชื่อไปพร้อมกันพฤติการณ์เช่นนี้แสดงชัดว่าจำเลยทั้งสามได้สมคบกันกับพวกของจำเลยไปกระทำความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่หลบหนีสมคบกันใช้ไม้ตีและใช้ปืนยิงนายจันทร์ นายเงิน นายตา โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย กระสุนไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตายขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การต้องคำกันปฏิเสธข้อหา

ศาลจังหวัดสระบุรีฟังว่านายหลงพวกของจำเลยตีนายจันทร์ นายน้องจำเลยยิงนายเงิน ส่วนนายลี นายเพิ่ม นายเดช ไม่พอฟังว่าได้สมคบกับนายน้องจำเลยและนายหลง พิพากษาว่านายน้องผิดตาม มาตรา 249, 60ให้จำคุก 10 ปี ให้ยกฟ้องปล่อยตัวนายลี นายเพิ่ม นายเดช จำเลย

โจทก์และนายน้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า นายลี นายเพิ่มนายเดช จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน ตาม มาตรา 249, 60 ให้จำคุกคนละ 10 ปี นอกจากนี้คงยืน

จำเลยที่ถูกศาลอุทธรณ์ลงโทษฎีกาคดีเฉพาะตัวนายน้องเป็นอันยุติ

ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยกับนายหลงนายใย เข้าไปยังลานบ้านนายดาพร้อมกันขณะนั้นดึกมากแล้ว ไม่ใช่เวลาอันควรที่พวกจำเลยจะไปปรากฏตัวอยู่ในที่นั้น จำเลยกับพวกไปก่อเหตุระรานผู้เสียหายก่อน กล่าวคือนายหลงใช้ไม้ตีนายจันทร์ นายน้องใช้ปืนยิงนายเงินต่อหน้าต่อตานายลีนายเพิ่ม นายเดช จำเลย แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครในพวกจำเลยทั้งสามห้ามปราม การอุกอาจของพวกจำเลยเป็นเหตุให้ไม่มีใครกล้าสู้หน้าแต่นายลี นายเพิ่ม นายเดช จำเลยยังอยู่เป็นกำลังใจให้พรรคพวก แล้วพวกจำเลยก็ยิงกระหน่ำไปในใต้ถุนเรือนซึ่งมีพวกผู้เสียหายเข้าไปซ่อนอีกถึง 6 นัด เมื่อนายคูณ (ชาวบ้านร้องขอ จำเลยกับพวกจึงพากันออกจากบ้านนายดาไปพร้อมกันดังนี้เห็นว่าคดีมีพฤติการณ์แสดงชัดถึงการที่จำเลยกับพวกได้สมคบกันไปกระทำความผิด พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share