คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7970/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อผู้ส่งสินค้าทั้งห้ารายดังกล่าวติดต่อส่งสินค้ากับจำเลยทั้งสองมาเป็นเวลานาน ผู้ส่งสินค้าย่อมมีโอกาสตรวจดูเงื่อนไขข้อตกลงตามใบรับขนทางอากาศและทราบถึงเงื่อนไขข้อตกลงดังกล่าว และยังได้ความจากถ้อยคำของ ป. พยานจำเลยทั้งสองว่า พนักงานของจำเลยที่ 2 ได้อธิบายให้พนักงานของบริษัท อ. ทราบในหลายโอกาสว่าในใบรับขนทางอากาศด้านหลังมีข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งอยู่ ประกอบกับตามใบรับขนทางอากาศเอกสารหมาย จ.3 จ.7 จ.11 จ.15 และ จ.19 ในช่องหมายเลข 10 ซึ่งฝ่ายผู้ส่งสินค้าได้ลงชื่อไว้ในฐานะผู้ส่งสินค้ามีข้อความว่า ผู้ส่งสินค้าตกลงตามเงื่อนไขสัญญาที่ปรากฏอยู่ด้านหลังของใบรับขนทางอากาศนี้ แสดงว่าผู้ส่งได้รับทราบและยอมตกลงตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ปรากฏอยู่ด้านหลังของใบรับขนทางอากาศดังกล่าว นอกจากนี้ตามใบรับขนส่งทางอากาศ เอกสารหมาย จ.3 ก็ปรากฏว่าบริษัท อ. ผู้ส่งตกลงเลือกส่งสินค้าแบบไม่แจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่ง โดยมีการแจ้งน้ำหนักสินค้า จึงมีการคิดค่าระวางตามน้ำหนักสินค้าที่แจ้งเท่านั้น ส่วนในการขนส่งสินค้าของผู้ส่งสินค้าอีก 4 รายที่เหลือก็ปรากฏตามใบรับขนทางอากาศเอกสารหมาย จ.7 จ.11 จ.15 และ จ.19 ว่าผู้ส่งตกลงเลือกส่งสินค้าแบบแจ้งมูลค่าเพื่อการขนส่ง ยิ่งทำให้น่าเชื่อว่าผู้ส่งสินค้าดังกล่าวทราบและยอมรับข้อจำกัดความรับผิดที่ระบุอยู่ด้านหลังใบรับขนทางอากาศดังกล่าว ดังนั้น จึงรับฟังได้ว่าผู้ส่งสินค้าทั้งห้ารายดังกล่าวได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งดังกล่าว
แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ว่าผู้ส่งสินค้าทั้งห้ารายดังกล่าวได้ตกลงด้วยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่ง แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าสินค้าทั้ง 5 รายการ สูญหายไปเพราะการทุจริตหรือด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยทั้งสอง ซึ่งจำเลยทั้งสองไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยทั้งสองปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์แต่อย่างใด เท่ากับจำเลยทั้งสองยอมรับในข้อเท็จจริงดังกล่าว กรณีจึงรับฟังได้ว่าสินค้าทั้ง 5 รายการ สูญหายไปเพราะการทุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยทั้งสองผู้ขนส่งตามฟ้อง ซึ่งตามเงื่อนไขด้านหลังใบรับขนทางอากาศ เอกสารหมาย ล.5 กรณีนี้จำเลยทั้งสองผู้ขนส่งไม่อาจนำข้อจำกัดความรับผิดมาเป็นประโยชน์แก่ตนได้
เมื่อบริษัท บ. และบริษัท ก. ผู้ส่งได้บอกราคาแห่งของในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยทั้งสองผู้ขนส่งว่ามีราคารายละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ จำเลยทั้งสองย่อมต้องรับผิดและความรับผิดของจำเลยทั้งสองก็ย่อมจำกัดเพียงไม่เกินราคาที่บอกตาม ป.พ.พ. มาตรา 620 ส่วนสินค้ารายผู้ส่ง คือ บริษัท อ. นั้น ตามใบรับขนทางอากาศสินค้ารายนื้เอกสารหมาย จ.3 ในช่องมูลค่าสำแดงเพื่อการขนส่งไม่ได้ระบุราคาสินค้าไว้ว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างใด ฉะนั้น จึงไม่อาจพิพากษาให้จำเลยทั้งสองจำกัดความรับผิดชดใช้ค่าเสียหายของสินค้ารายนี้เป็นเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4,404 บาท ตาม ป.พ.พ. มาตรา 620 วรรคสอง ได้ แต่เรื่องนี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้วินิจฉัยแล้วว่า ผู้ส่งสินค้าได้บอกถึงสภาพของสินค้าไว้ในขณะที่ส่งมอบให้จำเลยทั้งสองผู้ขนส่งแล้ว จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 620 วรรคหนึ่ง โดยในข้อนี้โจทก์และจำเลยทั้งสองไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งแต่อย่างใด จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความสูญหายของสินค้าดังกล่าวแก่โจทก์ เมื่อจำเลยทั้งสองไม่อาจนำข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวมาใช้บังคับได้ดังกล่าว จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามราคาสินค้า
แม้ตัวแทนทำการเกินอำนาจ แต่ทางปฏิบัติของตัวการย่อมทำให้บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันควรจะเชื่อว่าการอันนั้นอยู่ภายในขอบอำนาจของตัวแทนเช่นนี้ ตัวการย่อมต้องรับผิดต่อจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตตาม ป.พ.พ. มาตรา 822 ประกอบมาตรา 821

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามสัญญารับขนสินค้าทางอากาศแก่โจทก์ 1,784,692 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 1,711,607 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 17,376 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินจำนวน 4,404 บาท 4,267 บาท 4,312 บาท และ 4,393 บาท นับแต่วันที่ 14 มกราคม 2545 วันที่ 4 กรกฎาคม 2545 วันที่ 5 ตุลาคม 2545 และวันที่ 28 ตุลาคม 2545 ตามลำดับเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 20,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์และจำเลยทั้งสองไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติได้ว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2544 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2545 วันที่ 3 มิถุนายน 2545 วันที่ 18 กันยายน 2545 และวันที่ 10 ตุลาคม 2545 บริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด บริษัทโซฟราเจม จำกัด นายมาเฮช กุมาร เอจาร์วาล บริษัทบิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด และบริษัทแกมม่า ครีเอชั่นส์ จำกัด ตามลำดับได้ตกลงให้จำเลยทั้งสองขนส่งสินค้าจำพวกเครื่องประดับทำด้วยเงินบริสุทธิ์ ทอง 18 เค เพชร และมรกตเจียระไน และอัญมณี ซึ่งเป็นของมีค่าไปให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศตามใบรับขนทางอากาศเอกสารหมาย จ.3 จ.7 จ.11 จ.15 และ จ.19 โดยผู้ส่งดังกล่าวได้เอาประกันภัยสินค้าไว้กับโจทก์ ในระหว่างที่สินค้าดังกล่าวอยู่ในความดูแลของจำเลยทั้งสอง สินค้าเกิดสูญหายทั้งหมด ต่อมาโจทก์ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยทั้ง 5 รายแล้วในวันที่ 14 มกราคม 2545 วันที่ 21 มีนาคม 2545 วันที่ 4 กรกฎาคม 2545 วันที่ 5 ตุลาคม 2545 และวันที่ 28 ตุลาคม 2545 ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 1,711,607 บาท
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ในประการแรกว่า ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งสินค้าที่ระบุไว้ในใบรับขนทางอากาศดังกล่าวว่า ผู้ขนส่งจะรับผิดไม่เกิน 250 ฟรังก์ฝรั่งเศสต่อน้ำหนักสินค้า 1 กิโลกรัม เว้นแต่ผู้ส่งได้สำแดงเพิ่มเติมในช่องมูลค่าเพื่อการขนส่งและได้ชำระค่าระวางเพิ่มนั้น มีผลใช้บังคับได้หรือไม่ เห็นว่า บริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด เป็นลูกค้าของจำเลยที่ 2 ได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ 2 ขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศเป็นประจำตลอดมาตั้งแต่ปี 2537 โดยทางจำเลยที่ 2 ได้จัดส่งคู่มือและคำชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิและผลประโยชน์และหน้าที่เปิดบัญชีรวมทั้งการจำกัดความรับผิดไปให้บริษัทดังกล่าวแล้วตามคู่มือพร้อมคำแปล ตามคู่มือดังกล่าวก็ระบุถึงมูลค่าที่สำแดงไว้และข้อจำกัดความรับผิดว่า “ก. ความรับผิดสูงสุดของเฟดเด็กซ์สำหรับการสูญเสีย… จำกัดไว้ไม่เกิน 250 ฟรังก์ต่อกิโล เว้นแต่ผู้ส่งจะสำแดงมูลค่าเพื่อการขนส่งไว้บนใบตราส่งและชำระค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมตามที่ระบุไว้ในวรรค ข.” และจำเลยที่ 2 ได้จักส่งแบบฟอร์มใบรับขนทางอากาศตามเอกสารหมาย ล.3 ไปให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย ส่วนบริษัทพรีมา เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ส่งสินค้าอีก 4 รายที่เหลือก็เป็นลูกค้าประจำของจำเลยที่ 2 มาเป็นเวลานานเช่นกันและบริษัทพรีม่า เน็ทเวิร์ค จำกัด ทราบดีว่า จำเลยที่ 2 มีข้อจำกัดความรับผิดในการขนส่งสินค้าดังกล่าว ดังนี้ เมื่อผู้ส่งสินค้าดังกล่าวติดต่อส่งสินค้ากับจำเลยทั้งสองมาเป็นเวลานานเช่นนี้ ผู้ส่งสินค้าย่อมมีโอกาสตรวจดูเงื่อนไขข้อตกลงตามใบรับขนทางอากาศดังกล่าวและทราบถึงเงื่อนไขข้อตกลงดังกล่าวแล้ว และยังได้ความจากถ้อยคำของนายประพลพยานจำเลยทั้งสองต่อไปว่า พนักงานของจำเลยที่ 2 ได้อธิบายให้พนักงานของบริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด ทราบในหลายโอกาสว่าในใบรับขนทางอากาศด้านหลังมีข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งดังกล่าวอยู่ ประกอบกับตามใบรับขนทางอากาศเอกสารหมาย จ.3 จ.7 จ.11 จ.15 และ จ.19 ในช่องหมายเลข 10 ซึ่งฝ่ายผู้ส่งสินค้าได้ลงชื่อไว้ในฐานะผู้ส่งสินค้าก็มีข้อความว่า ผู้ส่งสินค้าตกลงตามเงื่อนไขสัญญาที่ปรากฏด้านหลังของใบรับขนทางอากาศนี้ เช่นนี้ แสดงว่าผู้ส่งได้รับทราบและยอมตกลงตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ปรากฏอยู่ด้านหลังของใบรับขนทางอากาศดังกล่าว นอกจากนี้ตามใบรับขนส่งทางอากาศเอกสารหมาย จ.3 ก็ปรากฏว่าบริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด ผู้ส่งตกลงเลือกส่งสินค้าแบบไม่แจ้งมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่ง โดยมีการแจ้งน้ำหนักสินค้า จึงมีการคิดค่าระวางพาหนะตามน้ำหนักสินค้าที่แจ้งเท่านั้น ส่วนในการส่งสินค้าของผู้ส่งอีก 4 รายที่เหลือก็ปรากฏตามใบรับขนทางอากาศเอกสารหมาย จ.7 จ.11 จ.15 และ จ.19 ว่าผู้ส่งตกลงเลือกส่งสินค้าแบบแจ้งมูลค่าเพื่อการขนส่ง ดังนี้ ยิ่งทำให้น่าเชื่อว่าผู้ส่งสินค้าดังกล่าวทราบและยอมรับข้อจำกัดความรับผิดที่ระบุอยู่ด้านหลังใบรับขนทางอากาศดังกล่าว ดังนั้น จึงรับฟังได้ว่าผู้ส่งสินค้าทั้ง 5 รายดังกล่าวได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งดังกล่าว
ปัญหาต่อไปมีว่าข้อตกลงในการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งดังกล่าวนำมาใช้บังคับได้หรือไม่ เห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ว่า ผู้ส่งสินค้าทั้ง 5 รายได้ตกลงด้วยชัดแจ้งในการจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งดังกล่าว แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าสินค้าทั้ง 5 รายการสูญหายไปเพราะการทุจริตหรือด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยทั้งสอง โดยในข้อนี้จำเลยทั้งสองไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยทั้งสองปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์แต่อย่างใด เท่ากับจำเลยทั้งสองยอมรับในข้อเท็จจริงดังกล่าว กรณีจึงรับฟังได้ว่าสินค้าทั้ง 5 รายการสูญหายไปเพราะการทุจริตหรือด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยทั้งสองผู้ขนส่งตามฟ้อง ซึ่งตามเงื่อนไขด้านหลังใบรับขนทางอากาศเอกสารหมาย ล.5 พร้อมคำแปล กรณีนี้จำเลยทั้งสองผู้ขนส่งไม่อาจอ้างข้อจำกัดความรับผิดมาเป็นประโยชน์แก่ตนได้ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดเช่นนี้ จำเลยทั้งสองจึงไม่อาจนำข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวมาใช้บังคับได้ตามที่โจทก์อุทธรณ์
ปัญหาต่อไปมีว่าจำเลยทั้งสองต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เพียงใด เห็นว่า ในข้อนี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้วินิจฉัยไว้ความว่า ผู้ขนส่งได้รับบอกราคาแห่งของไว้แล้ว คือ ราคารายละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่ระบุไว้ในช่องหมายเลข 4 มูลค่าสำแดงเพื่อการขนส่งตามใบรับขนทางเอกสารหมาย จ.7 จ.11 จ.15 และ จ.19 และพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดตามราคาดังกล่าว มิใช่ตามราคาสินค้าที่ระบุไว้ในใบกำกับสินค้าและตามอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้แสดงเหตุผลโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่พิพากษาว่า ผู้ขนส่งได้รับบอกราคาแห่งของในขณะส่งมอบว่ามีราคารายละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ดังกล่าวว่าไม่ถูกต้องอย่างไรให้ชัดแจ้ง กรณีจึงต้องรับฟังว่านายมาเฮช กุมาร เอจาร์วาล บริษัทบิวตี้ เจมส์ แพคตอรี่ จำกัด และบริษัทแกมม่า ครีเอชั่นส์ จำกัด ผู้ส่งได้บอกราคาแห่งของในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยทั้งสองผู้ขนส่งว่ามีราคารายละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษา เมื่อของนั้นได้บอกราคาไว้ดังกล่าว จำเลยทั้งสองย่อมต้องรับผิดและความรับผิดของจำเลยทั้งสองผู้ขนส่งก็ย่อมจำกัดเพียงไม่เกินราคาที่บอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนค่าเสียหายของสินค้าแก่โจทก์ สำหรับรายผู้ส่งนายมาเฮช กุมาร เอจาร์วาล บริษัทบิวตี้ เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด และบริษัทแกมม่า ครีเอชั่นส์ จำกัด เป็นเงิน 4,267 บาท 4,312 บาท และ 4,393 บาท ตามลำดับนั้น จึงชอบแล้ว ส่วนสินค้ารายผู้ส่ง คือ บริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดเป็นเงิน 4,404 บาท นั้น เห็นว่า ตามใบรับขนทางอากาศสินค้ารายนี้เอกสารหมาย จ.3 ในช่องมูลค่าสำแดงเพื่อการขนส่งไม่ได้ระบุราคาสินค้าไว้ว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างใด ดังนั้น จะฟังว่าของนั้นได้บอกราคาไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่ผู้ขนส่งว่ามีราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐไม่ได้ จึงไม่อาจพิพากษาให้จำเลยทั้งสองจำกัดความรับผิดชดใช้ค่าเสียหายของสินค้ารายนี้เป็นเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4,404 บาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 วรรคสอง ได้ ในเรื่องนี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้วินิจฉัยไว้แล้วว่า ผู้ส่งสินค้าได้บอกถึงสภาพของสินค้าไว้ในขณะที่ส่งมอบให้จำเลยทั้งสองผู้ขนส่งแล้ว จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 วรรคหนึ่ง โดยในข้อนี้โจทก์และจำเลยทั้งสองไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งแต่อย่างใด จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความสูญหายของสินค้าดังกล่าวแก่โจทก์ เมื่อจำเลยทั้งสองไม่อาจนำข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวมาใช้บังคับได้ดังกล่าว จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามราคาสินค้า และในเรื่องนี้นางวาสนาพยานโจทก์ให้ถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงว่าตามใบกำกับสินค้าเอกสารหมาย จ.1 บริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด ขายสินค้ารายนี้ให้แก่ลูกค้าในราคา 14,038.55 ดอลลาร์สหรัฐ แต่โจทก์รับประกันภัยไว้ 15,442.41 ดอลลาร์สหรัฐ เพราะในการรับประกันภัยของโจทก์ โจทก์จะคิดมูลค่าประกันภัยรวมราคาของ ณ สถานที่และในเวลาที่ผู้ขนส่งได้รับของและค่าระวางส่งของไปยังสถานที่ส่งมอบแก่ผู้รับตราส่งกับทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ เนื่องด้วยการส่งของไปนั้นด้วย เท่ากับโจทก์กำหนดจำนวนค่าสินไหมทดแทนตามที่ของซึ่งขนส่งนี้จะได้ราคาเมื่อถึงตำบลอันกำหนดให้ส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 883 โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 15,442.41 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 676,841 บาท ตามฟ้อง อุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังขึ้น
ที่โจทก์อุทธรณ์ในประการสุดท้ายว่า บริษัทโซฟราเจม จำกัด ไม่ได้มอบอำนาจให้บริษัทพรีม่า เน็ทเวิร์ค จำกัด ไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยทั้งสอง สัญญาดังกล่าวจึงไม่ผูกพันบริษัทโซฟราเจม จำกัด นั้น เห็นว่า ในข้อนี้นายประพลพยานจำเลยทั้งสองได้ให้ถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นและเบิกความประกอบว่าภายหลังจากที่ทราบว่าสินค้าที่ส่งสูญหาย บริษัทโซฟราเจม จำกัด ได้มอบอำนาจให้บริษัทพรีม่า เน็ทเวิร์ค จำกัด มาติดต่อเจรจากับจำเลยที่ 2 และเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2545 บริษัทพรีมา เน็ทเวิร์ค จำกัด ในฐานะตัวแทนของบริษัทโซฟราเจม จำกัด ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทกับจำเลยที่ 2 โดยบริษัทโซฟราเจม จำกัด ตกลงรับเงินชดใช้ค่าเสียหายจากการที่สินค้าสูญหายเป็นเงิน 4,430.61 บาท ซึ่งเท่ากับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่ระบุไว้เป็นมูลค่าสินค้าเพื่อการขนส่งทั้งนางวาสนาพยานโจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยทั้งสองถามค้านยอมรับว่าบริษัทพรีมา เน็ทเวิร์ค จำกัด เป็นตัวแทนผู้เอาประกันหรือผู้ส่งสินค้าทั้ง 4 ยกเว้นบริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด ซึ่งตัวแทนดังกล่าวมีหน้าที่ในการติดต่อซื้อประกันจากโจทก์และเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ประกอบกับบริษัทโซฟราเจม จำกัด มอบหมายให้บริษัทพรีมา เน็ทเวิร์ค จำกัดเป็นตัวแทนมาติดต่อกับจำเลยทั้งสองให้ส่งสินค้า ดังนี้แม้ตัวแทนทำการเกินอำนาจ แต่ทางปฏิบัติของตัวการดังกล่าวย่อมทำให้บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันควรจะเชื่อว่าการอันนั้นอยู่ภายในขอบอำนาจของตัวแทน เช่นนี้ ตัวการย่อมต้องรับผิดต่อจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 822 ประกอบมาตรา 821 ดังนี้ โจทก์จะอ้างว่าบริษัทโซฟราเจม จำกัด ตัวการไม่ได้มอบอำนาจให้บริษัทพรีม่า เน็ทเวิร์ค จำกัด ตัวแทนทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวหาได้ไม่ สัญญาดังกล่าวจึงมีผลผูกพันบริษัทโซฟราเจม จำกัด ดังนี้ ผลของการทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตน บริษัทโซฟราเจม จำกัด จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยทั้งสองอีก โจทก์ผู้รับประกันภัยจึงไม่อาจเข้ารับช่วงสิทธิของบริษัทโซฟราเจม จำกัด ผู้เอาประกันภัยมาฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดใช้เงินค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์สำหรับสินค้าของบริษัทเอ็กซ์ทรีม จิวเวลรี่ จำกัด เป็นเงิน 676,841 บาท และสินค้าของนายมาเฮช กุมาร เอจาร์วาล บริษัทบิวตี้เจมส์แฟคตอรี่ จำกัด และบริษัทแกมม่า ครีเอชั่นส์ จำกัด เป็นเงิน 4,267 บาท 4,312 บาท 4,393 บาท ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 689,813 บาท ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 689,813 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 676,841 บาท 4,267 บาท 4,312 บาท และ 4,393 บาท นับแต่วันที่ 14 มกราคม 2545 วันที่ 4 กรกฎาคม 2545 วันที่ 5 ตุลาคม 2545 และวันที่ 28 ตุลาคม 2545 ตามลำดับจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

Share