คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเอาสายสร้อยเก๊ไปจำนำอย่างสร้อยทองคำโดยกล่าวว่าได้มาจากช่างทอง แม้จำเลยจะมิได้ออกวาจารับรองว่าเป็นทองคำ ก็ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงอันเป็นผิดฐานฉ้อโกง

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยได้เอาสายสร้อยซึ่งไม่ใช่ทองคำ ๑ สายไปจำนำนางแจ่ม โดยกล่าวเท็จว่า ได้มาจากนางเปี่ยม ช่างทอง นายแจ่มเชื่อว่าทองคำเพราะนางเปี่ยมไม่เคยทำของปลอม จึงรับไว้มอบเงิน ๑๕ บาทให้จำเลยไป รุ่งขึ้นจะเอาสร้อยใส่ไปงานลองเผาไฟดู จึงรู้ว่าเป็นของเก๊
ศาลชั้นต้นเห็นว่าที่นางแจ่มส่งเงินให้จำเลยไปไม่ใช่เพราะหลงเชื่อคำที่จำเลยกล่าวเท็จ เป็นแต่นางแจ่มเชื่อยี่ห้อของนางเปี่ยม โดยเห็นว่านางเปี่ยมไม่เคยทำของปลอม จำเลยมิได้ใช้อุบายหลอกลวงให้นางแจ่มหลงเชื่อ คดีจึงขาดองค์ความผิดฐานฉ้อ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเข้าในฐานฉ้อโกง ตามมาตรา ๓๐๔ พิพากษาจำคุกจำเลย ๔ เดือน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงโจทก์มีนางแจ่มกับนายอิ่มเบิกความยืนยันว่า สร้อยของกลางเป็นสร้อยที่จำเลยเอามาจำนำนางแจ่ม พฤตติการณ์ที่ได้ความดั่งกล่าวข้างต้นฟังได้ว่าจำเลยได้ใช้อุบายให้นางแจ่มหลงเชื่อว่าสร้อยที่จำเลยเอามาจำนำเป็นทองแท้ จำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกงดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share