แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บุตรเอาที่ดินของบิดามารดาไปให้ผู้อื่นเช่า โดยทำสัญญาเช่ากันเป็นหนังสือลงชื่อบุตรเป็นผู้ให้เช่าแล้ว นำสืบว่าที่ทำสัญญาให้เช่ารายนี้ ก็โดยได้อำนาจมาจากบิดามารดา การสืบดังกล่าวนี้มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่าแต่อย่างใด
การที่ตัวการให้สัตยาบันการกระทำของตัวแทนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 823 นั้น หาจำต้องทำเป็นหนังสือไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ได้ซื้อกรรมสิทธิที่ดินโฉนดที่ ๒๙๖๓ ไว้จากนายศิริ นางศรีสอาด ที่ดินนี้ มีเรือนของจำเลยปลูกอาศัยอยู่ ๑ หลัง จากเจ้าของเดิม โจทก์ขอให้จำเลยรื้อไป จำเลยไม่รื้อ จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า ไม่ได้อาศัย แต่ได้เช่าที่ดินจากเจ้าของเดิม
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าจำเลยได้เช่าที่ดินปลูกบ้านที่อยู่อาศัย จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลสั่งรับเป็นฎีกาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาปรึกษาแล้ว ที่โจทก์ว่าตามสัญญาที่จำเลยอ้างมีชื่อนายศิริพงษ์เป็นผู้ให้เช่า จะนำสืบว่านายศิริพงษ์ทำสัญญาในฐานะเป็นตัวแทนเจ้าของเดิม เป็นการนำสืบแก้ไขเพิ่มเติมพยานเอกสาร จำนำสืบไม่ได้นั้น เห็นว่าการนำสืบดังกล่าวเพื่อแสดงให้เห็นว่านายศิริพงษ์ผู้ทำสัญญาให้เช่าที่รายนี้ว่า ได้อำนาจมาจากนายศืรื นางศรีสอาดบิดามารดาผู้เป็นเจ้าของที่ มิใช่เป็นการสืบแก้เปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารเช่าแต่อย่างใด ที่ฎีกาว่า การเช่าที่ดินต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย จะวินิจฉัยพยานบุคคลแทนพยานเอกสารไม่ถูกต้อง เมื่อการตั้งตัวแทนใช้ไม่ได้ การให้สัตยาบันก็มีไม่ได้นั้น การให้สัตยาบันการกระทำของตัวแทนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๘๒๓ หาจำต้องทำเป็นหนังสือดังที่โจทก์ฎีกาไม่ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน