แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถูกฟ้องที่ศาลแขวงในมูลคดีเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในศาลอาญา ในชั้นศาลอาญา จำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยกันกับบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นผู้กระทำผิดเป็นการเฉพาะตัว ส่วนในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในหน้าฟ้องมีว่า นายจิ้น แซ่เล้าหรือยินจุน แทนบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด จำเลย ใจความฟ้องมีว่า จำเลยได้กระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้าบางอย่าง โดยจำเลยในนามของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด ได้นำกระสอบป่านสองแสนใบจากประเทศอินเดีย เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยมิได้รับอนุญาต และในรายงานกระบวนพิจารณา ผู้ว่าคดีแถลงต่อศาลว่าฟ้องจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด หาใช่ฟ้องจำเลยเป็นการเฉพาะตัวไม่ ดังนี้ถือว่าจำเลยมิได้ถูกฟ้องหาว่าได้กระทำผิดโดยเฉพาะตัวและยังมิได้ถูกไต่สวนมูลฟ้อง อัยการจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2503)
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยนำของเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาติและหลีกเลี่ยงภาษี ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้ว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ฟ้องบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด หาได้ฟ้องจำเลยด้วยไม่ จำเลยจึงยังไม่ถูกไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยไม่ได้
ศาลอาญาพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาฟ้องตามศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นตัดสินขี้ขาดคดีใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาได้วินิจฉัย โดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จำเลยถูกฟ้องที่ศาลแขวงในมูลคดีเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในศาลอาญา ในชั้นศาลอาญา จำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยกันกับบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นผู้กระทำผิดเป็นการเฉพาะตัว ส่วนในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยถูกฟ้องโดยในหน้าฟ้องมีว่า ผู้ว่าคดีกองพิเศษ กรมตำรวจ โจทก์นายจิ้น แซ่เล้าหรือยินจุน แทนบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด จำเลย ใจความฟ้องมีว่า จำเลยได้กระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้าบางอย่าง โดยจำเลยในนามของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด ได้นำกระสอบป่านสองแสนใบจากประเทศอินเดีย เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยมิได้รับอนุญาต และในรายงานกระบวนพิจารณา ผู้ว่าคดีแถลงต่อศาลว่าฟ้องจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด หาใช่ฟ้องจำเลยเป็นการเฉพาะตัวไม่ ดังนี้ถือว่าจำเลยมิได้ถูกฟ้องหาว่าได้กระทำผิดโดยเฉพาะตัวและยังมิได้ถูกไต่สวนมูลฟ้อง อัยการจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลอาญา