คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7904/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในขณะที่เจ้าหนี้เข้าเป็นกรรมการของลูกหนี้นั้น ลูกหนี้ก็มีหนี้สินมาก อย่างน้อยธนาคาร อ. ก็เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ และถึงขนาดที่มีการตรวจสอบฐานะและต้องแนะนำสนับสนุนเจ้าหนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้าไปบริหารของลูกหนี้แล้ว ฐานะของลูกหนี้จึงมิได้อยู่ในสภาพที่ดีหรือมั่นคง ตรงกันข้ามการที่เจ้าหนี้ต้องค้ำประกันหนี้ทั้งสองอันดับในฐานะส่วนตัวต่อธนาคาร อ. ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่แนะนำสนับสนุนเจ้าหนี้เข้าไปบริหารงานของลูกหนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นชัดถึงภาวะความมีหนี้สินล้นพ้นตัวถึงขนาดที่ลำพังฐานะของลูกหนี้อยู่ในภาวะที่ไม่น่าไว้วางใจได้แล้วแน่ชัด ฉะนั้น การที่เจ้าหนี้ยังยอมตนเข้าค้ำประกันหนี้ทั้งสองอันดับ จึงเป็นการกระทำที่เจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 94(2)

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ (จำเลย) ไว้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2536 นายสุรพล ตันตราภรณ์ เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นค่าหนี้ค้ำประกันเป็นเงิน 25,585,273.97 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ รายละเอียดปรากฏตามบัญชีท้ายคำขอรับชำระหนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้ว ธนาคารกรุงเทพ จำกัด เจ้าหนี้รายที่ 4 และบริษัทคาร์โนด์เมตัลบ๊อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าหนี้รายที่ 7 โต้แย้งว่า เป็นหนี้เกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีหรือเป็นหนี้ที่สมยอมกัน และเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า หนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้คือหนี้การค้ำประกันและหนี้ตามสัญญาค้ำประกันทั้งสองอันดับเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้เข้าค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้ ในขณะที่เจ้าหนี้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนลูกหนี้ตั้งแต่วันที่15 กันยายน 2529 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2530 ย่อมแสดงว่าเจ้าหนี้รู้ถึงฐานะของลูกหนี้ว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 94(2) และหนี้อันดับ 1 คือหนี้การค้ำประกัน ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการหักเงินในบัญชีเงินฝากประจำของเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้ของลูกหนี้เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ ส่วนหนี้อันดับ 2 คือหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเป็นการชำระหนี้โดยบริษัทนิมิตอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หาใช่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เสียทั้งสิ้นตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 107(1)

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

เจ้าหนี้อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

เจ้าหนี้ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้หรือไม่ เจ้าหนี้ฎีกาว่าเจ้าหนี้เข้าค้ำประกันหนี้และชำระหนี้ทั้งสองอันดับโดยขณะนั้นฐานะลูกหนี้ยังมั่นคงดีอยู่โดยอ้างว่าการที่เจ้าหนี้เข้าเป็นกรรมการของบริษัทลูกหนี้ก็ด้วยการแนะนำสนับสนุนจากธนาคารเอเชีย จำกัด เจ้าหนี้รายที่ 6 ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่มีการตรวจสอบฐานะของลูกหนี้เป็นอย่างดีแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่า จากข้ออ้างดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าขณะที่เจ้าหนี้เข้าเป็นกรรมการของลูกหนี้นั้น ลูกหนี้ก็มีหนี้สินมาก อย่างน้อยธนาคารเอเชีย จำกัด ก็เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ และถึงขนาดที่มีการตรวจสอบฐานะและต้องแนะนำสนับสนุนเจ้าหนี้ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้าไปบริหารงานของลูกหนี้แล้ว ฐานะของลูกหนี้จึงมิได้อยู่ในสภาพที่ดีหรือมั่นคงดังที่เจ้าหนี้อ้าง ตรงกันข้ามจากข้อเท็จจริงที่เจ้าหนี้ต้องค้ำประกันหนี้ทั้งสองอันดับในฐานะส่วนตัวต่อธนาคารเอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่แนะนำและสนับสนุนเจ้าหนี้เข้าไปบริหารงานของลูกหนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นชัดถึงภาวะความมีหนี้สินล้นพ้นตัวถึงขนาดที่ลำพังฐานะของลูกหนี้อยู่ในภาวะที่ไม่น่าไว้วางใจได้แล้วแน่ชัด การที่เจ้าหนี้ยังยอมตนเข้าค้ำประกันหนี้ทั้งสองอันดับ จึงฟังได้ว่าเป็นการกระทำที่เจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(2) ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยตรงกันให้ยกคำขอรับชำระหนี้นั้นถูกต้องแล้ว ฎีกาเจ้าหนี้ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share