แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยอ้างว่าทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของผู้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการยึดดังนี้ เป็นคดีที่จะต้องเสียค่าขึ้นศาลร้อยละสองครึ่งในจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ตามความในพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 179 วรรคสุดท้ายไม่ใช่ว่าต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาท ตามมาตรา 179(1)
ย่อยาว
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของผู้ล้มละลายยึดที่ดิน 2 แปลง ราคา 200,000 บาท ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้สั่งถอนการยึด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วมีคำสั่งไม่ให้ถอนการยึด จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการยึด
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้การว่า ผู้ร้องมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนผู้ล้มละลายขอให้ศาลมีคำสั่งยื่น
ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการยึด
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นแยกเป็น 2 ฉบับฉบับแรกอุทธรณ์ว่าที่พิพาทเป็นของผู้ล้มละลาย ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องส่วนฉบับหลังอุทธรณ์ว่าที่ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์สำหรับอุทธรณ์ฉบับแรกตามทุนทรัพย์ในอัตราร้อยละสองครึ่ง ไม่ถูกต้อง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ควรเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรือให้มีคำสั่งทั่ว ๆ ไปเพียง 50 บาท ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 179 วรรคท้าย ขอให้สั่งคืนค่าธรรมเนียมส่วนที่เกิน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนทั้งสองฉบับ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาว่า
1. ที่พิพาทเป็นของผู้ล้มละลาย
2. ค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ฎีกาคดีนี้ควรเสียเพียง 50 บาทอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ตามนัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการคัดค้านคำสั่งหรือตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 179(1)
ศาลฎีกาวินิจฉัยฎีกาข้อแรกว่า ที่พิพาทเป็นของผู้ร้อง ส่วนฎีกาข้อ 2ศาลฎีกาพิจารณาพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 179 ซึ่งได้แก้ไขโดยพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2511 มาตรา 11 แล้ว เห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องผู้ร้องร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องต่อศาลซึ่งศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาและมีคำสั่งเหมือนอย่างคดีธรรมดาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 158 อันเห็นได้ว่าเป็นคดีที่จะต้องเสียค่าขึ้นศาลในอัตราร้อยละสองครึ่งในจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง เช่นเดียวกับคดีร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ดังบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 179 วรรคสุดท้าย หาใช่ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาท ตามมาตรา 179(1) ไม่
พิพากษายืน