คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าที่ดินมีข้อความว่า เช่าเพื่อจะใช้เป็นแหล่งการค้าเสาไม้กระดาน และเครื่องอุปกรณ์และอื่นๆ หาปรากฏว่าจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่และผู้เช่าซึ่งเป็นนิติบุคคลก็ได้ใช้ที่นี้เป็นที่ตั้งสำนักงานบริษัทของผู้เช่าดังนี้ เป็นการเช่าเพื่อประโยชน์ในการค้าโดยตรง ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ(อ้างฎีกาที่ 11/2492)
นิติบุคคลเช่าห้องแถว ให้คนงานของตนอยู่อาศัยในบริเวณที่ดินซึ่งนิติบุคคลนั้นเช่าตั้งสำนักงานประกอบการค้าขายนั้น ถือว่าเป็นการเช่าเพื่อประโยชน์แก่การค้าของนิติบุคคลนั้นเอง. ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
สัญญาเช่าทำกันเองในฉบับเดียวกันแบ่งเวลาเช่าเป็น 2 งวดงวดแรก3 ปี งวดหลัง 2 ปี ดังนี้ มีผลเท่ากับทำคราวเดียวกำหนด 5 ปี ฉะนั้นตามกฎหมายย่อมมีผลบังคับได้เพียง 3 ปีเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินจากนางอุดม ปรากกว่าจำเลยตั้งสำนักงานทำการค้าไม้กระดานอยู่ที่ห้องแถว 3 ห้อง ซึ่งโจทก์ซื้อจากนางอุดมพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างโจทก์จึงขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่า เช่าที่ดินรายนี้จากนางอุดม เพื่อปลูกสร้างทำเครื่องก่อสร้าง และเป็นที่อยู่อาศัยมีกำหนด 5 ปี จำเลยชำระค่าเช่าโดยปลูกห้องแถวในที่ดินรายนี้ 3 ห้อง และปลูกทำออฟฟิศให้คนงานจำเลยอยู่อีก 8 ห้อง ต่อมาห้อง 3 ห้องนั้นว่าง จำเลยจึงได้เช่าจากนางอุดมไว้ให้คนงานอยู่อาศัย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากสถานที่พิพาท

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามหนังสือสัญญาเช่ามีความว่า เช่าเพื่อจะใช้เป็นแหล่งการค้าเสาไม้กระดานและเครื่องอุปกรณ์และอื่น ๆ หาปรากฏว่า จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่ จำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคลก็ได้ใช้ที่นี้เป็นที่ตั้งสำนักงานของบริษัทของจำเลย การเช่าเพื่อประโยชน์ในการค้าโดยตรงเช่นนี้ ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 11/2492 ส่วนห้องแถวอีก 3 ห้อง ซึ่งจำเลยสร้างขึ้นให้แก่ผู้ให้เช่า ตามสัญญาเช่าเพื่อหลบภัยทางอากาศ แล้วต่อมาจำเลยได้เช่าให้คนงานของบริษัทจำเลยอาศัยนั้น ก็เป็นการเช่าเพื่อประโยชน์แก่การค้าของจำเลยนั้นเอง จึงไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกัน

ส่วนสัญญาที่จำเลยทำไว้กับเจ้าของเดิมมีกำหนด 5 ปี ปรากฏว่าเป็นสัญญาทำกันเองในฉบับเดียวกัน แบ่งเวลาเป็น 2 งวด งวดแรก 3 ปี งวดหลัง 2 ปี จึงมีผลเท่ากับทำคราวเดียวกำหนดเวลา 5 ปี ตามกฎหมายย่อมมีผลได้เพียง 3 ปี ตอนโจทก์บอกให้จำเลยออกจากที่เกินเวลา 3 ปีแล้ว จำเลยก็ต้องออกไป

จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share